ลงทุนอย่างไรให้สอดคล้องกับเป้าหมายชีวิตปีหน้า เพื่อเริ่มปีใหม่อย่างมีทิศทางการลงทุนที่ชัดเจนและสำเร็จได้ง่ายขึ้นเมื่อเราเริ่มจาก “เป้าหมายชีวิต” มากกว่าตามกระแส ในช่วงปลายปีแบบนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งในการทบทวนสิ่งที่ต้องการ และ ออกแบบแผนลงทุนให้สอดคล้องกับเป้าหมายแต่ละด้านของชีวิต ด้วยแนวคิดการลงทุนแบบ Goal - based Investing
Goal - based Investing คืออะไร?
คือการแยกพอร์ตลงทุน “ตามเป้าหมาย” แทนการแยกตามสินทรัพย์ หรือระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยเป้าหมายที่ว่าจะเน้นไปที่เป้าหมายของชีวิต เช่น เป้าหมายเกษียณ เป้าหมายการศึกษาบุตร หรือเป้าหมายอื่นๆ ที่อยู่ในความสนใจขณะนั้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถคุมความเสี่ยงและติดตามผลได้ง่ายกว่าเดิม โดยมีหลักง่าย ๆ ดังนี้
- ไม่ปะปนเงินเป้าหมายสำคัญ
- เห็นความคืบหน้าชัดเจน
- มีความเสี่ยงเหมาะกับแต่ละเป้าหมาย
ตัวอย่างการจัดพอร์ตตามเป้าหมาย
- เที่ยวญี่ปุ่นใน 12 เดือน : 80 – 100% กองทุนตลาดเงิน
- เก็บดาวน์คอนโด 5 ปี : 60% ตราสารหนี้ + 40% กองทุนผสม
- เงินเกษียณ 25 ปี : 70% หุ้นโลก + 20% ตราสารหนี้ + 10% ทางเลือก
1) เริ่มจากการตั้งเป้าการเงินให้ชัดเจน
เป้าหมายที่ดีควรเป็นแบบ SMART
- S – Specific: ระบุชัดว่าต้องการอะไร เช่น เงินดาวน์บ้าน เงินเก็บเกษียณ เป้าหมายด้านการศึกษา
- M – Measurable: ระบุจำนวนเงินที่ต้องการ
- A – Achievable: สอดคล้องกับรายได้
- R – Relevant: ตรงกับช่วงชีวิต
- T – Time-bound: มีระยะเวลาแน่นอน เช่น ภายใน 3 ปี
แบ่งเป้าหมายเป็น 3 ระยะ เพื่อเลือกสินทรัพย์ง่ายขึ้น
- ระยะสั้น (0–3 ปี) : ท่องเที่ยว, เงินฉุกเฉิน → ตราสารหนี้/กองทุนตลาดเงิน
- ระยะกลาง (3–10 ปี) : ดาวน์บ้าน, แต่งงาน → กองทุนผสม + ตราสารหนี้
- ระยะยาว (10 ปี+) : การศึกษาบุตร, เกษียณ → หุ้น/กองทุนหุ้นโลก
2) เลือกเครื่องมือให้เหมาะกับเป้าหมาย
- กองทุนสำเร็จรูป : เหมาะกับมือใหม่/คนไม่มีเวลา
- DCA (ทยอยลงทุน) : ดีมากสำหรับหุ้นและเป้าหมายระยะยาว
- ตราสารหนี้/กองทุนตลาดเงิน : สำหรับเป้าหมายสั้นที่ต้องการความเสี่ยงต่ำ
- กองทุนหุ้น/ETF หุ้นโลก : เหมาะกับระยะยาว เพื่อการเติบโต
- RMF : ลดหย่อนภาษีพร้อมลงทุนเพื่อเกษียณ
3) จัดงบออมให้ไปถึงเป้าหมายจริง
- คำนวณเงินที่ต้องออมต่อเดือน:
จำนวนเงินเป้าหมาย ÷ จำนวนเดือนที่มี = เงินออมขั้นต่ำ
- แยกบัญชีหรือพอร์ตตามเป้าหมาย
- ตั้งระบบอัตโนมัติ เช่น Auto - DCA หรือหักเงินประจำเดือน
4) ติดตามผลระหว่างปีอย่างมีวินัย
- เช็กพอร์ตทุก 3 – 6 เดือน
- Rebalance ปีละครั้ง เพื่อคงระดับความเสี่ยง
- หากชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง เช่น รายได้เพิ่ม มีบุตร หรือเป้าหมายใหม่ ควรปรับพอร์ตให้สอดคล้อง
การลงทุนที่ดีต้องเริ่มจาก “ตัวเรา” เมื่อเป้าหมายชัด พอร์ตชัด และการตัดสินใจง่ายขึ้น การบรรลุเป้าหมายทางการเงินในปีหน้าก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม