SET Outlook
ตลาดหุ้นไทยยังคงเผชิญกับแรงขายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหุ้นขนาดใหญ่หลายกลุ่ม ปัจจัยลบหลักมาจากภาวะ Risk-Off ทั่วโลก หลังตลาดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและ AI ถูกเทขายอย่างหนัก และความกังวลของซีอีโอวอลล์สตรีทต่อมูลค่าตลาดที่สูงเกินไป นอกจากนี้ ตลาดกำลังจับตาการไต่สวนของศาลฎีกาสหรัฐฯ (SCOTUS) ในวันนี้ (5 พ.ย.) เกี่ยวกับอำนาจการกำหนดภาษีของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความผันผวนสูงในช่วงนี้
ปัจจัยในประเทศ
• อัตราเงินเฟ้อไทย: วันนี้ สํานักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) จะรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของไทย งวดเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา โดยตลาดคาดการณ์จะหดตัวที่ 0.90% YoY จากครั้งก่อนที่หดตัว 0.72% YoYซึ่งเป็นการหดตัวติดกันต่อเนื่องเข้าเดือนที่ 7 นับตั้งแต่เดือน เม.ย. 68 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงชัดเจน
• MSCI Rebalance: ดัชนี MSCI จะประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ที่มีการปรับดัชนีในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.) โดยการเปลี่ยนแปลงจะมีผลบังคับใช้ตามราคาปิดของวันที่ 24 พ.ย. การปรับดัชนีฯ จะมีผลกระทบต่อราคาหุ้นรายตัว โดยเฉพาะที่หุ้นถูกถอดออกจากดัชนี ซึ่งจากราคาหุ้นดังกล่าวจะมีความผันผวนมากกว่าปกติในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนการ Rebalance
• การกำกับดูแลทุนเทา: ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศยกระดับกระบวนการติดตามและตรวจสอบธุรกรรมที่ไม่พึงประสงค์ให้เข้มข้นขึ้น โดยเน้นการสกัดกั้นการใช้ระบบการเงินในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย รวมถึงการจับตาผู้ให้บริการ e-Wallet และการตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำ
• Fund Flow/เงินบาท: นักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทย (SET+MAI) ขายสุทธิ 889 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ 128 ล้านบาท ส่วนค่าเงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 32.52 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยต่างประเทศ:
• การเทขายหุ้นทั่วโลก: ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการเทขายที่นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและ AI หลังจาก Palantir Technologies Inc. รายงานผลประกอบการที่ไม่น่าประทับใจ ผู้บริหารระดับสูงของ Morgan Stanley และ Goldman Sachs แสดงความกังวลว่าตลาดอาจมีการปรับฐาน (Pullback) มากกว่า 10% ในช่วง 12-24 เดือนข้างหน้า เนื่องจากมูลค่าหุ้นที่สูงเกินไป (Rich Valuations)
• การไต่สวนภาษีของทรัมป์: ศาลสูงสหรัฐฯ มีกำหนดไต่สวนอำนาจการกำหนดภาษีของทรัมป์ภายใต้กฎหมาย IEEPA ในวันนี้ (5 พ.ย.) โดยคาดว่าจะตัดสินภายในช่วงปลายปี 2025 มีโอกาสสูงที่ศาลจะตัดสินว่าเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต ซึ่งจะทำให้มาตรการภาษีดังกล่าวเป็นโมฆะทางกฎหมาย และคาดว่าจะส่งผลให้ตลาดเกิดความผันผวนสูงในระยะสั้น
• ภาวะ Government Shutdown สหรัฐฯ: การปิดทำการรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงดำเนินต่อไป พรรครีพับลิกันและเดโมแครตไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณที่หมดอายุไปตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ได้ การให้บริการของรัฐบาลหลายส่วนต้องระงับต่อไป ขณะนี้ได้ผ่านไป 35 วันแล้ว และกำลังทำลายสถิติที่ยาวนานที่สุดในปี 2018
• PBOC เข้าซื้อพันธบัตร: ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้กลับมาเข้าซื้อพันธบัตรของรัฐบาลเป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยได้อัดฉีดสภาพคล่องสุทธิ 20,000 ล้านหยวนในเดือน ต.ค. เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ
ตัวเลขเศรษฐกิจและ Event
• TH-CPI YoY
• US-ADP Employment Change
Strategy
• แรงขายยังมาไม่หยุด โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ในหหลายๆกลุ่ม ขณะที่ SET Index ที่ไม่รวม DELTA ปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับสำคัญเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน และตลาดกำลังรอดู 2 ตัวแปรสำคัญ ในสัปดาห์นี้ คือ การเริ่มไต่สวนของศาลฎีกาของสหรัฐฯในเรื่องภาษีของประธานาธิบดี Trump และ MSCI Index Review ทั้งสองตัวแปรนี้ จะเกิดขึ้นเช้าวันพฤหัสที่ 6 พ.ย.นี้
• กลยุทธ์หลัก ยังเป็น “ชะลอการลงทุน” เรากำลังรอดูว่าเมื่อใด แรงขายของตลาดจะลดลง โดยมองช่วงของการเข้าซื้อรอบนี้ไว้ที่ดัชนีฯ 1280-1300 จุด
• หุ้นในพอร์ตแนะนำ: เรานำ TRUE* เข้ามาในพอร์ต หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย TRUE*(10%), BCH*(10%), CPF*(10%)
Technical GPSC, ICHI
News Flash:
( 0 ) Tourism (Neutral) นักท่องเที่ยวล่าสุด +9% WoW จากรัสเซียและสหรัฐอเมริกา ส่วนจีนและอินเดียลดลง
Company Update:
( + ) CK (ซื้อ/เป้า 23.50 บาท) กำไรปกติ 3Q25E โต QoQ ตามการรับรู้ backlog และปัจจัยฤดูกาล CKP
( - ) STECON (ซื้อ/เป้า 10.00 บาท) 3Q25E ฟื้น YoY แต่ชะลอ QoQ หลังมีงานบางส่วนล่าช้าไปใน 4Q25E