News Flash
คุณร่มธรรม เสถียรธรรมะ กรรมการผู้จัดการ CBG เผยว่า เงินบาทแข็งค่าเป็นปัจจัยหนุนช่วยลดต้นทุนนำเข้าวัตถุดิบ เช่น Aluminum อีกทั้งราคาน้ำตาลก็ยังอยู่ในทิศทางขาลง ทำให้ภาพรวมต้นทุนมีแนวโน้มลดลง แต่ในอีกด้าน บริษัทมีการขายสินค้าในรูปแบบเงินบาททำให้คู่ค้าต่างประเทศต้องจ่ายแพงขึ้น หากแข็งค่าต่อเนื่องจะเป็นปัจจัยกดดัน บริษัทอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ CBG กำลังจะนำนวัตกรรมลดความหนาขวดแก้วลง 3-4% เริ่มใช้ใน 3Q25E
ด้านโครงการคนละครึ่ง: บริษัทมองว่าสินค้าเครื่องดื่มชูกำลังของบริษัทได้รับอานิสงส์เชิงบวก คาดหนุนรายได้ในช่องทางการจำหน่ายหลักของบริษัทคือ ร้านค้าปลึกและโชห่วย
ตลาดกัมพูชา: แม้ปัจจุบันต้องส่งทางเรือเพราะด่านชายแดนยังไม่เปิด แต่มองว่าโรงงานในกัมพูชาจะเปิดใน 4Q25 จะช่วยลดต้นทุนด้าน logistic อีกทั้งสถานการณ์กัมพูชาเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น
ตลาดเวียดนาม: คาดยอดขายขยายตัว +20% YoY จากแผนการรุกตลาดและสร้างฐานผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
ตลาดเมียนมา: แม้มีปัญหาการนำเข้าสินค้าบางช่วง แต่เป็นหนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพสูง บริษัทมองว่าเมื่อระบบการค้าการขนส่งเข้าสู่ภาวะปกติ โรงงานเมียนมาจะหนุนยอดขายในระยะยาว (ที่มา: ทันหุ้น)
Implication
-
Outlook ยังดีตามคาด เรามีมุมมองเป็นบวกเล็กน้อยจากประเด็นข้างต้น เราคาดกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 840-870 ล้านบาท ขยายตัว YoY, QoQ จากรายได้รวมขยายตัว YoY, QoQ หนุนโดยรายได้ domestic branded own เติบโตต่อเนื่อง YoY, QoQ ช่วยชดเชยรายได้ต่างประเทศที่ปรับตัวลดลง YoY, QoQ และ GPM ขยายตัว QoQ จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง
-
คงประมาณการกำไรปี 2025E ทั้งนี้ เราคงประมาณกำไรสุทธิปี 2025E ที่ 3,301 ล้านบาท (+16% YoY) หนุนโดย 1) รายได้รวมขยายตัว +13% YoY และ 2) GPM ขยายตัว จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง สำหรับปี 2026E เราประเมินกำไรสุทธิที่ 3,687 ล้านบาท (+12% YoY) ทั้งนี้ เรายังไม่ได้รวมโรงงานในพม่าและกัมพูชาในประมาณการ
Valuation/Catalyst/Risk
เรามองว่าราคาปัจจุบันน่าสนใจ สะท้อนปัจจัยลบเกี่ยวกับกัมพูชาไปหมดแล้ว โดย CBG เทรดอยู่ที่ PER 17.9x เทียบกับการเติบโตของกำไรปี 2025E-26E ที่โตต่อเนื่อง เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 79 บาท อิง 2025E PER 24.0x (ใกล้เคียง -1.25 SD ต่ำกว่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี)