News Flash
- นักท่องเที่ยวสัปดาห์ล่าสุด (28 ก.ค.-3 ส.ค.) ลดลง -5% WoW จากอินเดียและจีน ขณะที่ยังหดตัวลง -18% YoY รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวสัปดาห์ที่ผ่านมา (28 ก.ค.-3 ส.ค.) มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 585,810 คน (-5% WoW/-18% YoY) คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 83,687 คน โดยประเทศที่ลดลงเรียงตามลำดับ คือ 1) อินเดีย 37,919 คน (-14% WoW/+18% YoY) 2) มาเลเซีย 77,431 คน (-9% WoW/-12% YoY) และ 3) จีน 97,350 คน (-5% WoW/-41% YoY) ขณะที่ประเทศที่เพิ่มขึ้นคือ 1) ญี่ปุ่น 20,185 คน (+18% WoW) 2) เกาหลีใต้ 37,084 คน (+4% WoW/-15% YoY) และ 3) รัสเซีย 18,748 คน (+1% WoW/-0.1% YoY) โดยนักท่องเที่ยวชะลอตัวด้านการเดินทางในทุกกลุ่มตลาด โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) เดินทางเข้ามาลดลงกว่า -7% WoW จากความกังวลต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา อีกทั้งนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) ชะลอตัวด้านการเดินทางเช่นกัน โดยเดินทางเข้ามาลดลงกว่า -1% WoW สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-3 ส.ค. 25 ทั้งสิ้น 19,569,746 คน ลดลง -7% YoY (ที่มา: กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา)
Implication
- เรามองเป็นลบจากตัวเลขนักท่องเที่ยวรวมที่กลับมาลดลงจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจำนวนนักท่องเที่ยวรวมที่ลดลงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้นักท่องเที่ยวหลักอย่างนักท่องเที่ยวจีนและอินเดียกลับมาหดตัวลง แต่อย่างไรก็ดีนักท่องเที่ยวรัสเซียยังฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องมาช่วยหนุน ประกอบกับได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากจำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เข้ามาเพิ่มขึ้นมากถึง +18% (7M25 คิดเป็นสัดส่วนนักท่องเที่ยวราว 3% ของนักท่องเที่ยวรวม) โดยหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงเรียงลำดับจากมากไปน้อยตามสัดส่วนรายได้จากจีน ได้แก่ ERW, CENTEL, MINT, SHR ขณะที่ประเทศจีนเป็นช่วงปิดเทอม (ต้นเดือน ก.ค.-ปลายเดือน ส.ค. 25) ทำให้เราคาดว่าสัปดาห์หน้ามีโอกาสที่จะเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวจีนกลับมาฟื้นตัวได้บ้าง ขณะที่เราคาดว่าผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาจะกระทบเพียงระยะสั้นในการชะลอการเดินทางออกไป แต่เราเชื่อว่าการท่องเที่ยวใน กทม.และต่างจังหวัดโดยเฉพาะในภาคใต้ยังคงท่องเที่ยวได้ตามปกติ นอกจากนี้ระยะสั้นยังมีงาน FIVB Volleyball Women’s World ซึ่งจะจัดวันที่ 22 ส.ค.-7 ก.ย. 25 โดยมีเมืองหลักเป็นเจ้าภาพคือ กทม., เชียงใหม่, ภูเก็ต และนครราชสีมา ซึ่งน่าจะหนุนให้จำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมและจีนไม่หดตัวแรงในเดือน ส.ค.-ต้น ก.ย. 25 ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวรวม YTD ยังคงหดตัวลง -7% YoY โดยเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เข้าสู่ช่วง Low season ของไทย
- คงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวม/นักท่องเที่ยวจีนปี 2025E ที่ 34.5 ล้านคน/5 ล้านคน เรายังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 2025E จะอยู่ที่ 34.5 ล้านคน ลดลง -3% YoY และคาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะอยู่ที่ 5 ล้านคน ลดลง -26% YoY โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มฟื้นได้อย่างชัดเจนใน 4Q25E ขณะที่ความเสี่ยงในประเทศเริ่มมากขึ้นจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งอาจส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่ำกว่าที่เราคาดได้
Valuation/Catalyst/Risk
เราให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “เท่ากับตลาด” โดย Top pick ของกลุ่ม เราเลือก CENTEL
CENTEL (ซื้อ/เป้า 29.00 บาท) จาก valuation ซื้อขายที่ 2025E EV/EBITDA ที่ 9x (-1.75SD below 10-yr average EV/EBITDA) ถูกกว่า ERW ที่ 11x ขณะที่ไม่มีปัจจัย Overhang อย่าง ERW นอกจากนี้คาดว่าแนวโน้มกำไร 3Q25E จะฟื้นตัว QoQ ได้ตามยอด Booking ที่เพิ่มขึ้น และฟื้นตัวเด่น 4Q25E จากการเปิดอาคารผู้โดยสารใหม่ที่สนามบินมัลดีฟส์และนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัว