• คาดดัชนีฯ มีโอกาส rebound บริเวณ  1185 จุด แต่ยังต้องระวังแรงขายก่อนเข้าวันหยุด

• ตลาดหุ้นไทย เจอแรงขาย LTF กดดัน โดยประเมินว่ามีการสับเปลี่ยน LTF ที่ครบกำหนดไถ่ถอนไปยัง TESGX มีค่อนข้างน้อย หลังจากที่เริ่มเปิดให้ทยอยสับเปลี่ยนได้ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยดังกล่าวเร่งให้เกิดการเทขาย LTF ที่ครบกำหนดออกมามากขึ้น เนื่องจากกังวลว่า SET อาจจะปรับตัวลง หลังจากที่ตลาดปรับขึ้นสะท้อนภาพสงครามการค้าที่คลี่คลายลงไป และหันมาเริ่มให้นำหนักกับปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจของไทยที่คาดว่าจะอ่อนแอลงในไตรมาสที่ 2 ซึ่งในส่วนนี้ เรายังให้จับตาดูการเจรจาทางการค้าของไทยกับสหรัฐ หากออกมาดี ก็อาจจะทำให้มุมมองต่อเศรษฐกิจจะเริ่มดีขึ้น และ SET น่าจะพื้นตัวกลับมาได้

• Update การเจรจาการค้าของสหรัฐฯ คืนที่ผ่านมา มี 2 เรื่อง คือ สหรัฐฯประกาศข้อตกลงกับกาตาร์มูลค่ากว่า 2.43 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  และจีนได้ยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกแร่หายากและสินค้าและเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ใช้ในทางการทหาร โดยเฉพาะเจาะจงไปยัง 28 หน่วยงานของสหรัฐฯ .....  ทั้งสองเรื่อง เป็นบวกต่อตลาด

• ยอดขาย EV ของ XIAOMI ทรุดหนัก โดยเฉพาะรุ่น SU7 ร่วงลง 55% MoM จากปมอุบัติเหตุ-โฆษณาเกินจริง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตสามราย ตลอดจนการที่ผู้บริโภคไม่พอใจที่บริษัทโฆษณาเกินจริงเกี่ยวกับดีไซน์ฝากระโปรงหน้าของรถรุ่น SU7 Ultra ทำให้มีการยกเลิกคำสั่งซื้อรถรุ่นดังกล่าว

• CEO GULF "สารัชถ์ รัตนาวะดี" ได้เดินทางไปร่วมในการพบปะ ประธานาธิบดี "โดนัลทรัมป์" และฝ่ายบริหารสหรัฐฯ ซึ่งทาง GULF มีการระบุในการประชุมนักวิเคราะห์รอบที่ผ่านมาว่า กำลังรุกธุรกิจ LNG โดยตั้งเป้าการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างมากจากปัจจุบันที่ประมาณ 5 ล้านตัน เนื่องจากมีความพร้อมในเรื่องการขนส่งและTerminal LNG ซึ่งสหรัฐก็เป็นแหล่ง LNG รายใหญ่ของโลก การพบกันรอบนี้อาจจะเป็นจุดเชื่อมโยงกับธุรกิจดังกล่าวได้

• ตลาดหุ้นไทย ผ่านการส่งงบไปเมื่อคืนที่ผ่านมา(15) DAOL รวบรวมกำไร 686 บริษัท เป็นกำไรของ SET 2.68 แสนลบ. +1.4% yoy ; +56% qoq  สูงกว่าที่ตลาดคาด 11%(Bloomberg Survey) และมากกว่าที่เราประเมินไว้ที่ 2.4 แสนลบ. -10% YoY ; +38% QoQ  (เราใช้กำไร GULF และ INTUCH ก่อนควบรวม) .... คาดหลังส่งงบจบ อาจมีแรงขายออกมาให้เห็นหลังผ่านการรายงานกำไรกันไปแล้ว

• หลักทรัพย์ที่จะขึ้น “XD” สัปดาห์หน้า มี 8 หลักทรัพย์ มีผลต่อ SET Index -0.4 จุด (ถ้าราคาหุ้นลดลง เท่ากับเงินปันผลจ่าย) หุ้นขนาดใหญ่ที่จะขึ้น “XD” สัปดาห์นี้ อาทิ WHART(@0.1915), TSC(@0.4), CPNREIT(@0.2505)

• Event วันนี้ : นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร จัดการหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีเวียดนาม

 

• ตลาดยังพักตัว(ปรับฐาน) รอข่าวใหม่ๆ และ sell on fact หลังส่งงบ 1Q ผ่านไปแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องปกติ จากนี้ เราไปรอดูความคืบหน้าในการเจรจาการค้าในช่วงวันหยุดที่จะถึงนี้  และดัชนีฯ จะลงไปหยุดที่จุดใด (1172-1190 จุด)

• China Play จากมาตรการเศรษฐกิจของจีน และ Broker ต่างชาติ เริ่มเล็งตลาดหุ้นจีนและเศรษฐกิจจีนว่าจะกลับมาดีแล้ว หลังมีชัยในการเจรจาการค้ารอบแรก  หุ้น 3 sector จะได้อานิสงค์  ปิโตรเคมี อีเล็คทรอนิคส์  และเดินเรือ หุ้นเด่นของ 3 กลุ่มนี้ SCGP, IVL, PTTGC, CCET*, DELTA* , RCL*

• หุ้นในพอร์ตวันนี้ เรานำ HANA*, BA*, TOP, ITC ออก หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย DELTA*(10%), TRUE*(10%), RCL*(10%)

 

( 0 ) Bank (Neutral) คลังเตรียมเสนอซอฟต์โลน 1 แสนล้าน เยียวยาผู้ส่งออก- SMEs จากภาษีสหรัฐ

( 0 ) Bank (Neutral) KTB, KBANK, TTB ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้-เงินฝาก

 

( + ) CK (ซื้อ/เป้า 22.00 บาท) 1Q25 ดีกว่าคาด หนุนโดยงานสายสีส้มและ GPM ดีขึ้นตาม project mix

( - ) OKJ (ปรับลงเป็น ถือ/ปรับเป้าลงเป็น 8.50 บาท) 1Q25 กำไรตามคาด มีมุมมองระมัดระวังมากขึ้นต่อกำลังซื้อใน 2H25E

( 0 ) PLANB (ซื้อ/ปรับเป้าลงเป็น 7.00 บาท) กำไร 1Q25 โต YoY ตามคาดจากรายได้และ GPM ขยายตัว

( 0 ) SISB (ซื้อ/เป้า 22.50 บาท) 1Q25 กำไรตามคาด, ประเมินยังคงโตต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี

 

( 0 ) AOT (ถือ/เป้า 47.00 บาท) 2HFY25E มีแนวโน้มชะลอตัว, ประเด็น KPD ยังเป็น overhang