SET Outlook
- คาดดัชนีฯ ยังผันผวน ตลาดมีความไม่แน่นอนเข้ามาหลายเรื่อง ทิศทางดอกเบี้ย แผ่นดินไหวไต้หวัน และยังต้องรอ 2 event ใหญ่ของไทย (10 เม.ย.)
- ตลาดหุ้นทั่วโลก ถูกกระทบจาก ตัวแปรหลักๆ ในเวลานี้ คือ ความเสี่ยงเรื่องสงคราม มีผลให้โอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ยเดือน มิ.ย.ลดลง และความผันผวนในตลาดเงินเอเซีย
- สถานการณ์แผ่นดินไหวไต้หวัน ล่าสุด TSMC เตรียมกลับมาผลิตแล้ว... นักวิเคราะห์ต่างประเทศมองว่าแผ่นดินไหวมีผลกระทบจำกัดคือไม่มาก ต่ออุตสาหกรรม Chip และ Semiconductor ของไต้หวัน ทั้งนี้ ไต้หวันเป็นผู้ผลิต Chip แบบ Logic Chip (IC) และ Semiconductor ที่ใช้เทคโนโลยี่เดิม คิดเป็น 60% และ 35% ของปริมาณการผลิตทั่วโลก อุตสาหกรรมที่กระทบลำดับแรกๆ น่าจะเป็นโทรศัพท์ และประเทศที่พึ่งพิงไต้หวันมากที่สุด คือ เกาหลีใต้ จีน และ เม็กซิโก
- ประธาน Fed แสดงความเห็นต่อการลดดอกเบี้ยว่าจะยังไม่รีบนัก (เราประเมินว่า สถานการณ์สงครามและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาดี ทำให้ Fed ชะลอวันที่จะลดดอกเบี้ยออกไป)
- ผลประชุม OPEC+ ยังคงกำลังการผลิตเดิม (ลดต่อ) ดีต่อหุ้นผู้ผลิตน้ำมัน(PTTEP) และโรงกลั่นน้ำมัน
- ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องยุบพรรคก้าวไกลที่ กกต.เสนอมา โดยให้ผู้ถูกร้องแก้ต่างภายใน 15 วัน เราคาดว่า เร็วที่สุดที่จะรู้ผลว่ายุบหรือไม่ยุบพรรค คือ 30 วัน นับจากนี้ไป .... ผลต่อตลาดหากยุบพรรค คาดว่าจะมีไม่มาก
- เราคาด นักลงทุนส่วนใหญ่ จะรอดูการแถลงในรายละเอียดของ โครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท 10 เม.ย. (วันนั้นจะมีการประชุม กนง.ด้วย) โดยการแจกเงินครั้งนี้ มีผลต่อการก่อหนี้ของรัฐบาล ซึ่งมีผลต่อค่าเงินบาทและตลาดหุ้นโดยตรง
- Event สำคัญๆ วันนี้ : ตัวเลขเคลมวางงานของสหรัฐฯ
Strategy
- ประเมินดัชนีฯ น่าจะทรงๆตัว จนกว่าจะผ่าน 10 เม.ย. ไปแล้ว เรายังคงกลยุทธ์เป็นเล่นสั้นๆ
- ชุดของหุ้นสำหรับการถือ 1-3 เดือน คงหุ้น 3 ตัวไว้ คือ BDMS, AOT, RBF*
- จากการที่ Fed อาจชะลอการลดดอกเบี้ยออกไปจากเดือน มิ.ย. จะทำให้การเก็งในเรื่องลดดอกเบี้ยของไทย(10 เม.ย.) ลดลงไปด้วย อย่างไรก็ตาม เราปรับคำแนะนำในเรื่องนี้ เป็นรอซื้อเมื่ออ่อนตัว กับหุ้นกลุ่มที่อยู่อาศัย ระดับ กลาง-บน คือ SPALI, QH
- ความกังวลในเรื่องสงคราม(อิสราเอล) อาจกระทบหุ้นส่งออก เราแนะนำให้ขายทำกำไรออกไปก่อน สำหรับ AAI, ITC, KCE* (เคยให้เก็งในเรื่องเงินบาทอ่อน) ทั้งนี้ รวมถึงหุ้นกลุ่มนิคมฯ (ROJNA*, WHA) ที่น่าเลือกขายทำกำไรออกไปด้วย
- เราเริ่มเห็นหุ้นขนาดใหญ่ หรือหุ้นที่มีสภาพคล่องในตลาดดี ราคาลงมาที่แนวรับ แล้วเริ่มยืนได้ พอจะใช้เป็นสัญญาณได้ว่า แรงขายได้ลดลงแล้ว มีโอกาสเห็นการ rebound ของหุ้นเหล่านี้ มาให้เราเล่นสั้นๆ ได้ เช่นกลุ่มปิโตรเคมี (SCGP, IVL) กลุ่มค้าปลีก(CRC, CPAXT) กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM)
- วันนี้ ประชุม OPEC+ มีผลต่อหุ้นน้ำมัน ด้วยปัญหา supply ที่ตึงตัวมากขึ้น ทำให้ยังพอจะเก็งกำไรหุ้นน้ำมัน ต่อไปได้ คือ PTTEP, TOP, BCP (เรานำ OR ออกจาก list นี้ไปก่อน)
- หุ้นในพอร์ตวันนี้ คงหุ้นในพอร์ตไว้ทั้งหมด หุ้นในพอร์ตประกอบไปด้วย KTB(10%)
Technical : HTC, Q-CON
News Comment:
( + ) Energy (Neutral) OPEC+ คงแผนการลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจ 2.2mbd จนถึงสิ้น 1H24
( 0 ) IT distributor (Underweight) Automotive (Underweight) หุ้นที่ได้รับผลกระทบจากการปิดโรงงาน TSMC ในไต้หวัน
News Flash:
( 0 ) SIRI (ถือ/เป้า 1.80 บาท) แนวโน้ม Presales 1Q24E ยังใกล้เคียงคาด โต YoY ลดลง QoQ
Company Update:
( + ) KLINIQ (ซื้อ/เป้า 50.00 บาท) คาดกำไร 1Q24E ทำสถิติสูงสุดใหม่จาก SSSG โตและขยายสาขา
( - ) DOHOME (ถือ/ปรับเป้าลงเป็น 11.00 บาท) 1Q24E หดตัว YoY แต่โต QoQ จาก demand ที่ฟื้นตัวช้า