SET Outlook  

• คาดดัชนีฯ rebound จากผลประชุม Fed แต่ไปได้ไม่ไกล จากแรงขายหุ้นยังมีอยู่หลังไร้ข่าวบวกจากปัจจัยภายใน 

• ผลประชุม FOMC ออกมาตามที่ตลาดคาด คือคงดอกเบี้ย (5.50%) และมีแนวโน้มลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า (อาจต่ำกว่าที่ตลาดเคยคาด) ตลาดหุ้นส่วนใหญ่บวกได้จากแรงซื้อของคนที่ขายหุ้นออกไปก่อนหน้านี้ ไม่ได้ดีอย่างต่อเนื่อง 

• ราคาน้ำมันดิบ ขยับขึ้นตามผลประชุม FOMC และดอลล่าร์อ่อน (Dollar Index 102 จุด) ด้าน Fundamental คือ demand ของน้ำมันดิบยังไม่ได้ดีขึ้น ตราบที่เศรษฐกิจจีนยังไม่ฟื้น 

• ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทยมาก จะเป็นปัจจัยภายใน โดยเฉพาะนโยบายของรัฐบาล (ค่าไฟ+ค่าแรง+แก้หนี้)  และนโยบายกำกับการซื้อขายของ SET/SEC มีส่วนให้นักลงทุนชะลอการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา (ต่างจากตลาดอื่นๆ) 

• Event และตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้  ประชุมธนาคารกลางยุโรป (คาดคงดอกเบี้ย) 

 

Strategy 

• ตลาดยังไร้ข่าวบวก ขณะที่การซื้อขายเริ่มชะลอตัวลงเนื่องจากใกล้สิ้นปี การลงทุน เรายังแนะให้เน้นถือเงินสด เล่นสั้นๆ ควรให้ความสำคัญกับหุ้นที่กำไรยังดีหรือฟื้นตัวไว้ก่อน 

• รัฐบาลกำลังทยอยออกนโยบายด้านเศรษฐกิจ ในลักษณะของการช่วยเหลือประชาชน ทั้งในส่วนมาตรการแก้หนี้ ค่าไฟฟ้า และค่าแรงขั้นต่ำ ควรเลี่ยงหรือรอความชัดเจนก่อนลงทุนหุ้นที่เกี่ยวข้อง 

• ราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงมา ใกล้ $70 เหรียญ ลบต่อหุ้นน้ำมันและโรงกลั่นน้ำมันและกำไรตลาดงวด 4Q แต่หุ้นที่ได้ประโยชน์ จะเป็นผู้ที่มีต้นทุนอิงราคาน้ำมัน   เช่น EPG, AAV 

• ปีนี้และปีหน้า เป็นปีที่ตลาดยังไม่ดีมากนัก ควรจัดหรือหาจังหวะเก็บหุ้นที่จ่ายปันผลดี ไว้ อาทิ PTT, ADVANC, INTUCH, SPALI, AP, BBL 

• ตัวเลขท่องเที่ยว ออกมาดี (งานกาชาด+ concert Jay Chou) หุ้นได้ประโยชน์ AOT, BEM 

• หุ้นในพอร์ตวันนี้ เรานำ BCP ออก และคงหุ้นที่เหลือไว้ทั้งหมด หุ้นในพอร์ตวันนี้ ประกอบไปด้วย   BCH(10%), TKN*(10%) 

 

* เป็นหุ้นที่ทาง DAOL ไม่ได้มีการทำบทวิเคราะห์ 

 

Technical : DELTA, CBG 

 

News Commment:  

( + ) Tourism (Underweight) นักท่องเที่ยวสัปดาห์ล่าสุด (4-10 ธ.ค.) ดีขึ้นต่อเนื่องจากนักท่องเที่ยวจีน 

 

Company Update: 

( 0 ) Finance (Overweight) Auto-backed น่าสนใจ จากต้นทุนการเงิน และ NPL ที่จะเริ่มลดลง 

( 0 ) PR9 (ถือ/เป้า 16.00 บาท) 4Q23E ทรงตัว QoQ ตามคาด, 2024E ชะลอตัวลงตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า