SET Outlook

• คาดดัชนีฯ จะแกว่งกรอบแคบ รอประชุม FOMC คืนนี้ โดยคาดว่า จะมีการขายทำกำไรหุ้นออกมาให้เห็น

• ภาพรวมดัชนีฯ วานนี้ ถูกชี้นำด้วยหุ้น 4 ตัวหลัก (DELTA, GULF, INTUCH, ADVANC) มีผลต่อดัชนีฯ ราว 7 จุด แรงขายหุ้นบางตัว (PTTEP, SCC, AOT) ฉุดดัชนีฯ น่าจะเป็นปัจจัยเฉพาะตัวมากกว่า อย่างไรก็ตามภาพรวมๆ ของตลาดวันนี้ น่าจะออกแนว sideway เนื่องจากวันนี้ มีทั้งการประชุม BOJ และ FOMC

• BOJ ในการประชุมวันแรก โพลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นสู่ระดับ 0.1% จากปัจจุบันที่ระดับ 0% - 0.1% ขณะที่นักวิเคราะห์จาก ING คาดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.15% และนักวิเคราะห์จาก Bank of America คาดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงถึง 0.25%

• อิสราเอล โจมตีกรุงเบรุต ตอบโต้ที่ถูกโจมตีก่อนเมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ส่งผลให้ นายมูห์ซิน ชุคร์ หรือที่รู้จักกันในนาม ฟูอัด ชุคร์ ผู้บัญชาการอาวุโสของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เสียชีวิต .....  เราประเมินว่า ข่าวนี้ เป็นลบต่อตลาด ทั้งในเรื่องความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น และผลกระทบด้านเศรษฐกิจและปัญหาในการขนส่งสินค้า แม้จะดีต่อ RCL และ ทองคำ แต่ลบต่อหุ้นส่งออก รวมไปถึงหุ้น Commodity

•  ในการประชุม Politburo จีน สำนักข่าว Xinhua รายงานว่า จีนจำเป็นต้องมุ่งเน้นนโยบายเศรษฐกิจไปที่ความเป็นอยู่ของประชาชนและกระตุ้นการบริโภค โดยมีการเน้นที่การส่งเสริมเสถียรภาพในตลาดทุน เร่งการใช้รายได้จากการออกพันธบัตรพิเศษ แก้ไขปัญหาหนี้ของรัฐบาล รักษาเสถียรภาพของเงินหยวน และสนับสนุนบริษัทที่มีศักยภาพสูง ......  ข่าวนี้ ออกมาในโทนบวก เพราะปกติ จีนไม่ค่อยออกมาตรการเพื่อกระตุ้นการบริโภค (คงกลัวเงินเฟ้อ)

• ประชุมครม. เห็นชอบอนุมัติการปรับเงื่อนไขกองทุน ThaiESG ลดหย่อนภาษีไม่เกิน 30% สูงสุด 3 แสนบาท ถือครองลดเหลือ 5 ปี หวังกระตุ้นตลาดทุน และได้อนุมัติโครงการสินเชื่อ SME green productivity วงเงิน 15,000 ล้านบาท ให้ธพว. ปล่อยสินเชื่อ SMEs รายละไม่เกิน 10 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย 3% ช่วง 1-3 ปีแรก (รัฐบาลชดเชยอัตราดอกเบี้ยให้ ธพว. 3% ใน 3 ปีแรก)

• วันนี้ มีการประชุมบอร์ดกกพ. เคาะค่าไฟฟ้างวดก.ย.-ธ.ค. 67 ลดเหลือ 4.18 บาท และจะประกาศค่าเอฟทีอย่างเป็นทางการ .... เรามองเป็นผลกระทบเชิงลบต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า แต่จะดีกับกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้า อาทิ โรงแรม  ห้างสรรพสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม

• บอร์ด รฟท. เห็นชอบรวมสัญญาโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดงอ่อน) ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายาและ 3 สถานีเพิ่มเติม กับโครงการสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช เป็นโครงการเดียว แก้พื้นที่ทับซ้อน ทำให้มูลค่าโครงการรวมเดิม 1.53 หมื่นล้านบาท เหลือ 1.52 หมื่นล้านบาท หรือลดลง 110.06 ล้านบาท เร่งชงครม. คาดประมูลก.ย.นี้•

• Event สำคัญ วันนี้: รมว.คลัง จะมีการพูดถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ  ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ประชุมดอกเบี้ยของ  BOJ , ตัวเลข PMI จีน และ ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน มิ.ย.

.

Strategy

• ดัชนีฯ ยังต้อง พิสูจน์ตัวเองว่าจะ rebound ได้จริงหรือไม่ เพราะวานนี้ ถ้าไม่รวม DELTA ดัชนีฯ จะติดลบราว 7 จุด ทำให้ ต้องเผื่อใจกับตลาดไว้บ้าง....... กลยุทธ์วันนี้ เล่นค่อนข้างยาก แต่รวมๆ เราให้เป็น “ถือ” ไว้ก่อน เพื่อรอดูผลประชุม FOMC คืนนี้ ที่คาดว่าน่าจะออกมาดีต่อตลาด

• หุ้นกลุ่มเทคฯ สหรัฐฯ ลงแรง อาจมีผลกระทบม

าถึงหุ้นอีเล็คทรอนิคส์ของไทยวันนี้ หลังจาก DELTA, HANA, KCE วานนี้ ปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรง

• หุ้นที่เป็น high dividend เราแนะนำสะสม PTT และ ADVANC

• ดัชนีฯ หากประคองตัวเหนือ 1300 จุดได้ หุ้นที่อยู่ใน List ที่น่าเก็งกำไร คือ SCB, BDMS, HMPRO และ GULF  โดยเราตัด PTTEP ออก เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยน(ในทางลบ)

• หุ้นในพอร์ตวันนี้ เรานำ PTTEP ออก หุ้นในพอร์ต เหลือ GULF(10%) เพียงตัวเดียว

 

Technical : : OSP, SIS

 

Results Review:

( + ) PTTEP (ซื้อ/เป้า 180.00 บาท) กำไร 2Q24 สูงกว่าคาด; จ่ายปันผล 4.5 บาทสำหรับผลประกอบการ 1H24

 

( - ) AOT (ซื้อ/ปรับเป้าลงเป็น 72.00 บาท) ยกเลิกดิวตี้ฟรีขาเข้า กระทบมากกว่าที่เราประเมินเล็กน้อย

( - ) ERW (ปรับลงเป็น ถือ/ปรับเป้าลงเป็น 4.20 บาท) กำไรปกติ 2Q24E เพิ่มขึ้น YoY ได้เล็กน้อยเพราะค่าใช้จ่ายกดดัน