SET Outlook
• คาดดัชนีฯ แกว่งในกรอบแคบ 1195-1215 จุด
• ตลาดหุ้นไทย มีโอกาสฟื้นตัวกลับ หลังการขายทำกำไร หลังจากการรับรู้ปัจจัยบวกเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ภาพรวม SET ยังคงอยู่ในแนวโน้มขึ้นต่อได้ โดยในภาพรวมตลาดยังคงให้นำหนักเชิงบวก ในเรื่องการเจรจาทางการค้าของสหรัฐกับจีน หลังทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐกำลังประสบความสำเร็จในการเจรจาทางการค้ากับอังกฤษ
• หุ้นกลุ่มโรงแรมปรับตัวลดลงแรง จากแนวโน้มการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเริ่มเห็นการปรับลดตัวเลขนักท่องเที่ยวลงมาอยู่ประมาณ 32-34 ล้านคน จากปที่แล้วที่ 36 ล้านคน
• การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน เป็นตัวแปรสำคัญที่ต้องติดตาม โดยรมว.คลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ และผู้แทนการค้าสหรัฐฯ จามีสัน กรีเออร์ เตรียมหารือกับจีนอย่างเป็นทางการ โดยมีตัวแทนจีน คือ เหอ หลี่เฟิง รองนายกฯ จีน ร่วมเจรจากันที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คาดจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้
• ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-สหราชอาณาจักร โดยคาดว่าเป็นข้อตกลงแบบจำกัด เน้นเทคโนโลยีและ AI มากกว่าการค้าครอบคลุมทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้กล่าวไว้ว่าเป็น Major Trade Deal ครั้งแรก
• Trump เตรียมยกเลิกกฎคุมส่งออกชิป AI ของยุค Biden ซึ่งเดิมออกแบบมาเพื่อแบ่งประเทศต่าง ๆ ออกเป็น 3 กลุ่ม แล้วควบคุมการส่งออกชิป AI จากบริษัทสหรัฐฯ อย่าง Nvidia และ AMD ไปยังแต่ละกลุ่มประเทศ แผนของรัฐบาลทรัมป์คือ เน้นควบคุมการไหลของชิป AI ไปยังต่างประเทศ โดยเปิดโอกาสให้บริษัทสหรัฐฯ ขายชิป AI ให้จีนได้ เพราะมองว่าตลาด AI ในจีนจะมีมูลค่าสูงถึง 50,000 ล้านดอลลาร์ แต่ขณะเดียวกัน รัฐบาลทรัมป์ก็ยังคงเดินหน้าคุมเข้มการขายชิปขั้นสูงให้จีน การยกเลิกกฎ AI diffusion rule จะช่วยให้บางประเทศ เช่น อินเดีย มาเลเซีย และไทย ได้รับโอกาสนำเข้าชิป AI จากสหรัฐฯ มากขึ้น แต่ในระยะถัดไป
• เปิดไทม์ไลน์สรรหาผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่ เริ่มรับสมัคร 13 พ.ค.-4 มิ.ย.พร้อมยื่นใบสมัครและเอกสารแสดงแนวคิดการบริหารจัดการ ธปท. และวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจมหภาคของประเทศ และเศรษฐกิจการเงินโลก นโยบายการเงิน นโยบายการกำกับดูแลสถาบันการเงิน และนโยบายเกี่ยวกับระบบการชำระเงิน คาดว่าจะสรุปการคัดเลือก และเสนอชื่อต่อ รมว.คลัง ได้ก่อนวันที่ 2 ก.ค. โดยตามกฎหมายจะต้องมีการเสนอรายชื่อไม่ต่ำกว่า 2 รายชื่อ หลังจากนั้นจึงจะมีการเสนอให้ที่ประชุม ครม. คาดส่งชื่อเสนอครม. ต้น ก.ค.
• สัปดาห์หน้า มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ คือ อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ทั้ง CPI และ PPI งวดเดือนเม.ย. ซึ่งจะเป็นงวดเดือนแรกที่จะรับรู้ผลกระทบจาก Tariff ที่โดนัลด์ ทรัมป์ได้ประกาศใช้ไปเมื่อต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา จะเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชัดเจนขึ้น
• ตลาดหุ้นไทย เข้าสู่ฤดูกาล รายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน คาดว่ากำไรไตรมาสนี้ ราว 2.4 แสนลบ. -10% YoY ; +38% QoQ ฟื้นจาก 4Q ที่ 1.74 แสนลบ. วันสุดท้ายของการส่งงบงวดนี้ 15 พ.ค.68
• MSCI จะประกาศหุ้นเข้าคำนวณดัชนีฯ เช้าวันที่ 14 พ.ค. เราประเมินว่า อาจไม่มีหุ้นเข้า-ออก สำหรับ Standard Index แต่จะถูกลดน้ำหนัก เพราะราคาลงถึง 12% จากงวดก่อน โดยหุ้นที่ราคาลงมามาก อาทิ DELTA, AOT, CRC, BEM (หุ้นรั้งท้ายของกลุ่ม) และ PTTEP ทั้งนี้ ปัจจุบัน หุ้นไทยใน Standard Index เหลือแค่ 24 ตัว จาก 40 กว่าตัวเมื่อช่วงก่อน Covid-19 การเปลี่ยนแปลงใดๆของหุ้น จึงมีผลต่อ SET Index ไม่มากแล้ว …. ส่วน small cap จะคล้ายๆกันคือ อาจไม่มีหุ้นออก (มีหุ้นเข้า) สำหรับหุ้นที่รั้งท้ายของกลุ่มนี้ คือ JMART
• หลักทรัพย์ที่จะขึ้น “XD” สัปดาห์หน้า มี 20 หลักทรัพย์ มีผลต่อ SET Index -0.6 จุด (ถ้าราคาหุ้นลดลง เท่ากับเงินปันผลจ่าย) หุ้นขนาดใหญ่ที่จะขึ้น “XD” สัปดาห์นี้ อาทิ AMATA(@0.55), KBANK(@2.5), CHAO(@0.17)
• Event วันนี้ : ตัวเลขส่งออกจีน
Strategy
• ตลาดรับรู้ event ใหญ่ของสัปดาห์นี้ไปครบแล้ว โทนของตลาดยังไปในทางบวก การขายทำกำไรและเปลี่ยนตัวเล่น ยังเป็นกลยุทธ์ที่เราเลือกใช้ในช่วงนี้
• China Play หลังจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและสินเชื่อ ไปเมื่อวันก่อน(7) คาดหุ้น 3 sector ได้อานิสงค์ ปิโตรเคมี-อีเล็คทรอนิคส์-เดินเรือ หุ้นเด่นของ 3 กลุ่มนี้ SCGP, IVL, PTTGC, CCET, DELTA, RCL
• list หุ้น ที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายของนักลงทุน ที่จะเข้าซื้อที่ราคายังขึ้นมาไม่มาก เราเพิ่ม AMATA, NTL, STA เข้ามา เสริมจาก 4 ตัวที่มีมาก่อนแล้ว คือ BDMS, ITC, TOP, HANA*, BGRIM
• หุ้นในพอร์ตวันนี้ เรานำ WHA*, SCGP, GULF ออก และนำ AMATA*, BGRIM เข้ามาแทน หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย AMATA*(10%), BGRIM(10%), CCET*(10%), MTC*(10%), GLOBAL(10%), SCB(10%
Technical : DITTO, SYNEX
Results Review:
( + ) GPSC (ปรับขึ้นเป็น ซื้อ/เป้า 40.00 บาท) 1Q25 เติบโตจากโครงการใหม่ และเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการทั้งปี
( + ) SAV (ซื้อ/เป้า 21.00 บาท) 1Q25E ดีตามคาด ทำ new high, แนวโน้มเที่ยวบินกัมพูชายังโตดี
( - ) LPN (ขาย/ปรับเป้าลงเป็น 1.40 บาท) 1Q25 กำไรยังต่ำต่อเนื่อง จากยอดโอนและ GPM ที่ทำได้น้อย
( - ) QH (ถือ/ปรับเป้าลงเป็น 1.52 บาท) 1Q25 ลดลงตามคาด จากธุรกิจอสังหาฯ ที่ชะลอตัว
( 0 ) OR (ปรับลงเป็น ขาย/เป้า 12.50 บาท) กำไรสุทธิ 1Q25 ดีตามตลาดคาดแต่น่าจะเป็นจุดสูงสุดของปีแล้ว
( 0 ) CPAXT (ซื้อ/ปรับเป้าลง เป็น 30.00 บาท) กำไร 1Q25 โต YoY หดตัว QoQ ตามตลาดคาด แต่ต่ำกว่าเราคาด
( 0 ) SHR (ถือ/ปรับเป้าลงเป็น 1.85 บาท) กำไรปกติ 1Q25 ดีกว่าคาดจากภาษีจ่ายที่น้อยกว่าคาด
( 0 ) DOHOME (ซื้อ/เป้า 7.50 บาท) กำไร 1Q25 ทรงตัว YoY ขยายตัว QoQ ตามคาด หนุนด้วยสาขาในต่างจังหวัด
( 0 ) GULF (ซื้อ/เป้า 63.00 บาท) 1Q25 กำไรแต่ละบริษัทเติบโตดี แนวโน้มปี 2025E มีโครงการใหม่หนุน