• คาดดัชนีฯ  แกว่งกรอบแคบล้อไปกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ นักลงทุนรอดูความคืยหน้าเจรจาการค้าและหุ้นทยอยส่งงบ

• ตลาดหุ้นไทย แรงซื้อแผ่วลงหลังขึ้นมายืนเหนือ 1150 จุด ตลาดกำลังรอพัฒนาการที่สำคัญของการเจรจาการค้า รวมไปถึงการส่งงบการเงินและการ preview กำไรไตรมาสนี้ เห็นได้ว่ามีผลต่อราคาหุ้นในวันนี้ อาทิ หุ้นกลุ่มปศุสัตว์  หรือกลุ่มวัสดุก่อสร้าง

• การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับ 57 ประเทศ ยังเดินหน้าต่อจีนเริ่มผ่อนอัตราภาษีในบางสินค้าลง ผลกระทบของผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่ต้องจ่ายเพิ่มหลัง e-commerce ของจีนรายหนึ่ง Shein ได้ประกาศปรับราคาสินค้าที่ส่งไปขายยังสหรัฐฯเพิ่มขึ้นขึ้นต่ำ 30% จะบีบให้สหรัฐฯ ต้องยอมถอยหรือผ่อนคลายมาตรการนี้ลง และประเทศที่สหรัฐฯต้องให้ความสนใจมากที่สุดคือจีน

• ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เผชิญความผันผวนคืนที่ผ่านมา เป็นสัปดาห์ที่มีการประกาศผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่นักลงทุนจับตาผลกระทบจากสงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ …หลายคนมองว่าความผันผวนจะยังคงอยู่ โดยการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นในสัปดาห์ที่แล้วจะดำเนินต่อไปได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการดำเนินนโยบายที่ผ่อนคลาย  ของทำเนียบขาวต่อการค้ากับจีน

• จีนเล็งใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ มั่นใจบรรลุเป้าหมาย ที่ระดับประมาณ 5% ในปี 2568 รองประธาน NDRC ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของจีนในไตรมาสแรกปีนี้เติบโต 5.4  ...... เราคาดว่าหุ้นที่เป็น CHINA Play อย่าง SCGP, PTTGC ,IRPC, IVL และกลุ่มท่องเที่ยว อย่าง ERW, AAV, CENTEL, AOT อาจจะได้รับผลทางอ้อมจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน

• ราคาน้ำมันยังคงลดลง ราคาน้ำมันดิบ Brent เช้านี้ $64.6 เหรียญ แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัว และการเจรจากับอิหร่าน เป็นที่จับตา ...... เราประเมินราคาน้ำมันดิบที่ลดลง ลบต่อ PTTEP แต่ดีต่อหุ้นปิโตรเคมี อาทิ SCGP, IVL, PTTGC

• การประชุมกนง. 30 เม.ย.นี้ ตลาดคาดการณ์ว่า กนง. อาจพิจารณาลดดอกเบี้ยนโยบายลง (เดิมอยู่ที่ 2.00%) จากที่อัตราเงินเฟ้อยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง (อยู่ที่ 0.86% ในเดือนมี.ค.) และความตึงเครียดสงครามการค้าผ่อนคลายลงบ้างแล้ว โดยกลุ่มที่ได้ประโยชน์ คือ กลุ่มหนี้สูง เช่น อสังหาฯ แต่กลุ่มธนาคารจะเป็นกลุ่มหลักที่เสียประโยชน์ เนื่องจาก NIM ลดลง

• บริษัทจดทะเบียนเริ่มทยอยประกาศรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2568 นักลงทุนเริ่มเข้าเก็งกำไรในหุ้นรายตัว จะได้เห็น Preview กำไรของหุ้นต่างๆ คาดว่ากำไรไตรมาสนี้ ราว 2.05 แสนลบ. -23% YoY ; +17% QoQ ฟื้นจาก 4Q ที่ 1.74 แสนลบ.

• ITC, AAI : ไทยคาดว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มสินค้าที่ไทยเป็นผู้ส่งออกชั้นนำไปยังสหรัฐฯ อยู่แล้ว เช่น อาหารสุนัขและแมว ข้าว และปลาแมคเคอเรลแปรรูป พร้อมคว้าโอกาสในการทดแทนสินค้าจีน เช่น บะหมี่ อาหารทะเลแช่แข็ง ซีอิ๊ว และหน่อไม้

• Event  สัปดาห์นี้ :  ประชุม ครม. (จ.นครพนม)

• ดัชนีฯ ยังยืนเหนือ 1050 จุด ได้ กลยุทธ์ จึงยังถือต่อ หรือซื้อเพิ่มได้ แบบ Selective buy  โดยเน้นไปที่หุ้นที่ราคาลงมาลึกไว้ก่อน

• list หุ้น ที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายของนักลงทุนที่จะซื้อหุ้นที่ราคาลงมาลึก  WHA*, HANA*  ,BA*, KKP , ITC, IVL, PTTEP

• หุ้นในพอร์ตวันนี้ เรานำ GLOBAL เข้ามาใหม่ หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย GLOBAL(10%), BA*(10%), CPF*(10%), KKP(10%) DELTA*(10%), WHA*(10%), SCB(10%), CBG(10%)

 

( - ) MINT (ซื้อ/เป้า 34.00 บาท) สเปนประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังเกิดไฟดับครั้งใหญ่

 

( + ) Food & Beverage (Neutral) ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง มี.ค. เติบโต +4.9% MoM

 

( - ) ITC (ถือ/ปรับเป้าลงเป็น 14.00 บาท) 1Q25 ตามคาด, ปรับลดเป้าปี 2025E เพื่อสะท้อนนโยบาย tariffs

( 0 ) HMPRO (ซื้อ/เป้า 10.00 บาท) กำไร 1Q25 ทรงตัวได้ทั้ง YoY และ QoQ จากการควบคุมค่าใช้จ่าย แม้รายได้ลดลง

 

( - ) KTB (ซื้อ/ปรับเป้าลงเป็น 25.00 บาท) แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง ทำให้ NIM ลดลง และกดดันกำไร

( 0 ) PRM (ซื้อ/ปรับเป้าลงเป็น 7.50 บาท) 1Q25E ยังไม่เด่น แต่จะดีขึ้นใน 2Q25E จากการรับเรือใหม่