News Flash

           ครม.เคาะ “Easy e-Receipt ซื้อสินค้า-บริการ ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 5 หมื่นบาท”คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการ “Easy e-Receipt” ซึ่งมาตรการดังกล่าว วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสนับสนุนการบริโภคในประเทศ สนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีให้ใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1.กำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 15 ก.พ. 2567 ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินจำนวน 50,000 บาท  โดยจะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร

2. ค่าสินค้าหรือค่าบริการที่สามารถหักลดหย่อนได้ไม่รวมถึง (1) ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์ (2) ค่าซื้อยาสูบ (3) ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ (4) ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ (5) ค่าสาธารณูปโภค และ (6) ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่น ๆ เป็นไปตามกรมสรรพากรกำหนด (ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ)

Implication

มองกลุ่มสินค้า Electronics และ Basket size ใหญ่ได้ประโยชน์ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า IT กลุ่ม Home product และห้างสรรพสินค้าที่มีขนาด basket size ใหญ่จะได้ประโยชน์มากที่สุด เนื่องจากผู้ที่คาดว่าจะใช้สิทธิ์นี้เป็นผู้มีรายได้ระดับกลางขึ้นไป และไม่เข้าเกณฑ์ของ  Digital wallet 1 หมื่นบาท (รายได้รวมไม่เกิน 70,000 บาทต่อเดือน และมีเงินเก็บไม่เกิน 500,000 บาท) ซึ่งทางรัฐบาลประเมิณว่าผู้ที่มีรายได้เกิน 70,000 บาทต่อเดือน อยู่ที่ 1.3 ล้านคน และผู้ที่มีเงินในบัญชีรวมทุกบัญชีเกิน 500,000 บาท อยู่ที่ 3.5 ล้านคน ดังนั้นหากทุกคนใช้สิทธิ์มาตรการ 50,000 บาทนี้ จะมีเงินจับจ่ายใช้สอยในช่วงวันที่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 2567 อยู่ที่อย่างน้อย 175,000 ล้านบาท

กลุ่ม Commerce คงน้ำหนัก "Overweight"  หุ้นที่จะได้รับประโยชน์สูงที่สุดเรียงจากมากไปน้อยได้แก่ COM7 (ซื้อ/เป้า 30.00 บาท) HMPRO (ซื้อ/เป้า 16.30 บาท) CRC (ซื้อ/เป้า 48.00 บาท) และ CPN (ซื้อ/เป้า 82.00 บาท)