• คาดดัชนีฯ ยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนลดความเสี่ยงก่อน event สำคัญ กลางสัปดาห์
• 12 มิ.ย.จะมี 3 event ใหญ่ที่มีผลต่อตลาด (ก้าวไกล+กนง+FOMC) ก่อนหน้านี้ เราคาดว่า ตลาดลงมารับกับข่าวเหล่านี้ไปมากแล้ว แต่ยังมีแรงขายต่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังจาก 12 มิ.ย. ตลาดจะมีทิศทางที่ชัดเจนว่าจะขึ้นหรือลง
• ตลาดต่างประเทศ มีประเด็นความเสี่ยง ที่เข้ามาในสัปดาห์นี้ จนหนุนให้ดอลล่าร์ กลับมาแข็งค่าอีกครั้ง (Dollar Index กลับมายืนเหนือ 105 จุด ได้อีกครั้ง) คือ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสประกาศยุบสภาฯ และความไม่แน่นอนในการประชุม BOJ ในสัปดาห์หน้า
• ราคาน้ำมัน อาจกลับมาบวกได้อีกครั้ง ซึ่งจะดีต่อ PTTEP หลังตลาดคาด demand ยังแข็งแกร่ง และ Goldman Sachs คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งแตะ $86 ใน Q3/67 ..... ขณะที่ราคา Gas ในตลาดโลกขยับขึ้น จะบวกต่อ BANPU แต่ลบกับโรงไฟฟ้า ทั้งนี้ ราคาน้ำมันและ Gas ที่มีความผันผวน ผลต่อราคาหุ้นจะไม่มากเหมือนช่วงอื่นๆ (คนไม่กล้าเล่น)
• การเมืองในประเทศ เป็นตัวแปรที่คาดว่าจะกดดันการลงทุนในช่วงนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยเฉพาะตลาดหุ้นไทย ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีกำหนดจากพิจารณากรณียุบพรรคก้าวไกล ในวันที่ 12 มิ.ย. และ 18 มิ.ย. อดีตนายกฯ คุณทักษิณ จะเข้าพบอัยการสูงสุด .... หากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใดๆ แล้วไปทำให้การบริหารประเทศสะดุด จะกระทบตลาดหุ้นด้วย
• ศาลรธน. นัดถกคดี 40 สว.ชงถอดถอนนายกฯ ในวันพุธที่ 12 มิ.ย. 67 นี้ ทั้งนี้ เชื่อว่าศาลฯ อาจจะใช้เวลาอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์
• นายกฯ เผยเงินดิจิทัลวอลเล็ตยืนยันแจกครั้งเดียว 5 แสนล้านบาท 50 ล้านคนพร้อมกัน ยืนยันว่าจะมีการจ่ายเงินได้ภายในไตรมาส 4 ขอให้รอฟังนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แถลงครั้งเดียวเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ...... เรากำลังดูว่าตลาดจะเห็นอย่างไรกับการแจกเงินในลักษณะนี้ และต่างชาติ จะกังวลหรือไม่
• การประชุม กนง. ในวันพรุ่งนี้ (12) มีแนวโน้มที่ กนง.จะคงดอกเบี้ยไว้ เพราะกำหนดการลดดอกเบี้ยของ Fed ยังไม่แน่นอน การลดดอกเบี้ย จะไปเพิ่ม policy gap ให้มากขึ้น ปัจจุบันอยู่ที่ 3.0% (5.5-2.5)........ แต่หากไม่ลด ก็ต้องไปดูว่ารัฐบาลจะว่าอย่างไร และถ้าลดดอกเบี้ย เราถือว่าน่าจะ surprise แต่ก็อาจไม่ช่วยตลาดในเวลานี้ได้มากนัก เพราะความกังวลด้านอื่นๆ มีผลมากกว่า (เศรษฐกิจชะลอตัว+ปัญหาหนี้ครัวเรือน+การเมือง)
• Event สำคัญๆ วันนี้ : ประชุม ครม.
Strategy
• ดัชนีฯอาจถอยไปตั้งรับ เพราะ วันที่ 12 มิ.ย. หลาย event มีผลต่อตลาดมาก ทั้งในทางบวกและลบ เราแนะนำให้ชะลอการลงทุน รอให่ผ่านจุดสำคัญนี้ แล้วค่อยกลับมาพิจารณาว่าจะซื้อหรือขาย
• สำหรับนักลงทุนที่มองหาหุ้นที่เป็น high dividend เราเห็นเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อหุ้นเหล่านี้ โดยเรามีหุ้นให้เลือก 2 ตัว คือ PTT (คาดจ่ายเงินปันผลปีนี้ @2.0 บาท ; Dividend Yield 6.2%) และหุ้น SCB (คาดจ่ายเงินปันผลปีนี้ @6-9 บาท ; Dividend Yield 6-8%)
• หุ้นกลุ่มเครื่องดื่มหลายตัวเริ่มปรับตัวลง เหมือนเปลี่ยนกลุ่มเล่น เราถิด ICHI ออกจาก list ไปก่อน ขณะที่ KTB เราขอรอความชัดเจนในเรื่อง ANAN ช่วงนี้น่าหาจังหวะขายทำกำไรออกไปก่อน
• เกาะข่าว ครม. เศรษฐกิจจ่อตั้งกรรมการระดับชาติขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ดึงเงินลงทุนต่างชาติ และสั่งทุกหน่วยงานเร่งไทยเป็น Future Mobility Hub ..... น่าจะเป็นการแถลงนโยบายครั้งแรกของ ครม.เศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับที่นายกฯ เคยกล่าวไว้ เรามองเป็นบวกกับหุ้นในกลุ่มนิคมฯ ที่เด่นสุดน่าจะเป็น WHA
• หุ้นที่ขายสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจาก CPALL ที่เราแนะนำให้สะสม เราไปดูหุ้นที่เป็นฝั่งการผลิตสินค้าในกลุ่มนี้ที่มีการเติบโตที่ดี คือ NEO* ซึ่งมีเรื่องเล่าในการเติบโตจากการเตรียมเพิ่มกำลังการผลิต (แสดงว่าขายได้)
• หุ้นในพอร์ตวันนี้ เราคงหุ้นเดิมไว้ทั้งหมด หุ้นในพอร์ตจะประกอบด้วย GULF(1%), WHA(10%)
Technical : ADVICE, MALEE
News Comment:
( + ) NER (ซื้อ/เป้า 6.80 บาท) จัดตั้ง บ.ย่อยแห่งใหม่ที่โกตติวัวร์ เพื่อขยายธุรกิจยาง
( 0 ) Bank (Neutral) ครม. เสนอออมสิน ปล่อยกู้ซอฟต์โลน 1 แสน ลบ. ช่วย SME และเตรียมลดเกณฑ์ติดเครดิตบูโรใหม่เหลือ 3 ปี บวก 3 ปี
Company Update:
( 0 ) SISB (ถือ/เป้า 40.00 บาท) ธุรกิจเดินหน้าตามแผน แต่ราคาสะท้อนการเติบโตในอนาคตไปมาก
( 0 ) TTW (ถือ/เป้า 10.50 บาท) 2Q24E ดีขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล, โครงการใหม่ยังไม่คืบหน้ามากนัก
กลับสู่ด้านบน
DAOL Contact Center Address เลขที่ 87/2 อาคารซีอาร์ซีทาวเวอร์ ชั้นที่ 18 ออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
©2025 บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สงวนลิขสิทธิ์