SET Outlook
สรุปภาพรวม :
• คาดดัชนีฯ ผันผวนต่อ หุ้นปิโตรเคมีและผลการตัดสินของศาลฯ ชี้นำตลาด
คาดว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ ภาพรวม คือการรอคอย 2 event สำคัญ ทั้งในเรื่องการเมืองวันนี้ และ Fed จะพูดถึงแนวโน้มการลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า ... ดัชนีฯ วานนี้ปิดลบไป 3 จุด แต่หากไม่รวมการสูงขึ้นของหุ้นปิโตรเคมี ดัชนีฯอาจร่วงลงถึง 7 จุด ทิศทางการตลาดวันนี้ จึงยังขึ้นกับหุ้นกลุ่มนี้อยู่ รวมไปถึงผลการตัดสินของศาลอาญา กรณี ม.112 ของอดีตนายกฯ ทักษิณ
ปัจจัยต่างประเทศ
• ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ซึ่งเป็นช่วงขาลงที่ยาวนานที่สุดของปีนี้ โดยมีปัจจัยกดดันจากผลประกอบการของ Walmart ที่พลาดเป้าเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่พุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน
• คืนนี้ ประธาน Fed นายเจอโรม พาวเวลล์ ขึ้นกล่าวกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ "แนวโน้มเศรษฐกิจและการทบทวนกรอบนโยบาย" ที่งานประชุม Jackson Hole ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทั่วโลกกำลังจับตาดู คาดว่าจะส่งสัญญาณสำคัญเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต โดยเฉพาะการปรับเป้าหมายเงินเฟ้อและการจ้างงานใหม่ ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อทิศทางดอกเบี้ยเดือนก.ย. และทิศทางของ Fund flow ทั่วโลก
• กระแสเงินทุนไหลออกต่อเนื่อง: เงินทุนต่างชาติยังคงไหลออกจากตลาดหุ้นเอเชีย (ไทย, เกาหลีใต้, ไต้หวัน) โดยเฉพาะไต้หวัน จากความกังวลเรื่องทิศทางดอกเบี้ยโลกและความตึงเครียดทางการค้าที่ยังไม่คลี่คลายระหว่างสหรัฐฯ-จีน-อินเดีย ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันบรรยากาศการลงทุน
• การเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน (ปัจจัยบวกแฝง): หากการเจรจาระหว่างผู้นำรัสเซียและยูเครนประสบผลสำเร็จ จะเป็นปัจจัยบวกอย่างมากต่อตลาดหุ้นยุโรปและหุ้นไทยที่มีรายได้จากยุโรป
ปัจจัยในประเทศ :
• วันนี้ ศาลอาญามีนัดตัดสินคดี ม.112 ของนายทักษิณ ชันวัตร ซึ่งเป็นหนึ่งในคดีการเมืองสำคัญ ที่มีเส้นทางยาวนานกว่า 10 ปี คำตัดสินคดีอาจมีผลต่อบรรยากาศการลงทุน ตลาดหุ้นอาจผันผวนไปถึงตลอดสัปดาห์หน้า จนกว่าการตัดสินคดีคลิปเสียงของน.ส. แพทองธาร จะจบลงใน 29 ส.ค. นักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง จากความไม่แน่นอนของตลาดหุ้น
• Thailand Focus 2025 จัดขึ้นในสัปดาห์หน้า (27-29 ส.ค.) มีบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมกว่า 76 บริษัท ซึ่งโดยปกติแล้วในปีที่ผ่านมาหลังจบงาน Thailand Focus มีโอกาสสูงที่ดัชนีฯ จะปรับตัวขึ้น
• MSCI Rebalance: MSCI ประกาศรายชื่อหุ้นเข้า-ออกและปรับน้ำหนักดัชนีรอบใหม่ มีผล ณ ราคาปิดวันที่ 26 ส.ค. โดยประกาศดัชนี Global Standard Index หุ้นเข้า: ไม่มี หุ้นออก: HMPRO, OR และดัชนี Global Small Index หุ้นเข้า: HMPRO, KTC หุ้นออก: SISB, TPIPL, ICHI
• Event วันนี้ : สุนทรพจน์ของ เจอโรม พาวเวลล์ ที่ Jackson Hole Meeting, ศาลอาญานัดตัดสินคดี ม.112 นายทักษิณ
Strategy
• กลยุทธ์หลัก: วันนี้ จะมีคำตัดสิน อดีตนายกฯ ซึ่งอาจมีผลต่อตลาดหุ้น ควรพร้อมซื้อหรือขาย จากคัดสินที่ออกมา และการตอบรับของตลาด
• จับตาจุดรับสำคัญ: บริเวณ 1,240, 1,227 และ 1,220 จุด หากดัชนีหลุดแนวดังกล่าว อาจเป็นสัญญาณของการปรับตัวลงต่อ
• หุ้นกลุ่มปิโตรเคมี ของไทย ยังอาจได้อานิสงค์จาก 2 ข่าว ต่อเนื่องเป็นวันที่สาม จากเกาหลีใต้เรียกร้องสถาบันการเงินสนับสนุนการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมปิโตรเคมี (ลดกำลังการผลิต) และ จีนเตรียมปฏิรูปอุตสาหกรรมครั้งใหญ่เพื่อแก้ปัญหาอุปทานล้นตลาด โดยคาดว่าจะมีการออกมาตรการภายในเดือนหน้าเพื่อลดกำลังการผลิตในส่วนที่มีมูลค่าต่ำ ด้วยการทยอยปิดโรงงานขนาดเล็กและปรับปรุงโรงงานที่ล้าสมัย ซึ่งทั้งสองข่าว เป็นการลด supply ของปิโตรเคมีในตลาดเอเซียลง
• หุ้นที่อยู่ใน list ของหุ้นที่มีสัญญาณซื้อจาก model คัดหุ้นของเรา วันนี้มี 4 ตัว PLANB, WHA*, GUNKUL, TOP
• หุ้นในพอร์ตวันนี้ เรานำ TRUE ออก และนำ WHA*, CRC, KCE* เข้ามาในพอร์ต หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย WHA*(10%), CRC(10%), KCE*(10%), PLANB*(10%), MTC*(10%)
Technical : BGRIM, BCPG
News Comment
( - ) Bank (Overweight) สินเชื่อ ก.ค. 25 ลดลง -0.6% MoM จากสินเชื่อรายใหญ่และ SME
Company Report
( + ) STECON (ซื้อ/เป้า 10.00 บาท) 2H25E ธุรกิจก่อสร้างดีต่อ, หยุดรับรู้ขาดทุนสายสีชมพูและเหลือง
( - ) SAPPE (ปรับลงเป็น ถือ/ปรับเป้าลงเป็น 36.50 บาท) 3Q25E กลับมาชะลอตัวจาก Asia, US Tariff และสงคราม Middle East