News Flash

           แหล่งข่าวอุตฯ การบินเผย AAV มีแผนควบรวม TAAX แหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมการบินเปิดเผย ขณะนี้ AAV (เจ้าของสายการบินไทยแอร์เอเชีย TAA) กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาและจัดทำแผนการควบรวมกิจการกับ บริษัท ไทยแอร์เอเขีย เอ๊กซ์ จำกัด (เจ้าของสายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ TAAX) โดยกระบวนการควบรวมจะเกิดขึ้นช่วงเดือน ต.ค.24 หรืออย่างช้าไม่เกินภายในปีนี้ โดยเบื้องต้นรูปแบบการควบรวมกิจการจะใช้วิธีการแลกหุ้น (share swap) โดย AAV จะมีการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนหนึงเพื่อใช้แลกหุ้น TAAX ส่วนจำนวนหุ้นและราคาหุ้นที่จะใช้แลกหุ้นยังไม่มีการสรุป แต่ประเมินว่าราคาจะใกล้เคียงกับราคาในกระดาน เพื่อลดการเกิด dilution กับผู้ถือหุ้น และหลังธุรกิจควบรวมกิจการแล้วเสร็จ TAAX จะเข้ามาอยู่ภายใต้การบริหารของ AAV ต่อไป ขณะที่ทางด้าน นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TAAX และกรรมการบริษัท AAV ได้ปฎิเสธเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะจากการศึกษารายละเอียดธุรกิจแล้ว ทั้ง 2 บริษัท ไม่สามารถที่จะควบรวมกันได้อย่างแน่นอน เนื่องจากได้รับใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ (AOC) ที่แตกต่างกัน และได้ตารางบิน (Slot) ที่แตกต่างกัน หากมีการควบรวมก็จะเกิดปัญหาในการให้บริการ (ที่มา: ข่าวหุ้น)

Implication

           เรามองเป็นกลางจากข่าวดังกล่าว เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจน แต่เชื่อว่ามีโอกาสควบรวมได้ ซึ่งจะเป็นบวกต่อ AAV ทั้งในการบริหารเส้นทางการบินได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ AAV ณ สิ้นปี 2024E จะมีจำนวนเครื่องบินรวม 60 ลำ เป็นแอร์บัส A320 สำหรับเส้นทางบินระยะใกล้ไม่เกิน 4-5 ชัวโมง ส่วน TAAX มีเครื่องบิน 8 ลำ เป็นแอร์บัส A330 สำหรับเส้นทางบินต่างประเทศระยะกลางสามารถใช้เวลาบินได้มากกว่า 5 ชั่วโมง ซึ่งทำให้ TAAX ให้บริการบินระยะไกลกว่า AAV ให้บริการเส้นทางดอนเมือง ไปเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน และออสเตรเลีย ซึ่งจะทำให้สามารถเชื่อมต่อกับ AAV ที่มีเส้นทางบินในประเทศได้ รวมทั้งจะช่วยการบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพ ทั้งพนักงานส่วนกลางที่สามารถใช้ร่วมกันไม่ว่าจะเป็นเคาเตอร์การให้บริการ และพื้นที่เก็บของคลังสินค้า เป็นต้น นอกจากนั้น เราประเมินว่าจะช่วยให้มีกำไรโดยรวมเพิ่มขึ้นโดยเราประเมินกำไรปกติ AAV ปี 2024E ที่ 2.7 พันล้านบาท ขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยว่า TAAX จะมีกำไรราว 800-1,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามการเพิ่มทุนที่อาจทำให้ EPS หลังควบรวมอาจไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก 

           แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.20 บาท อิง 2024E core PER ที่ 15.5 เท่า คิดเป็น -1SD จากค่าเฉลี่ย PER ช่วงก่อนโควิดในปีที่มีกำไรปกติ ทั้งนี้ เราประมาณการกำไรปกติปี 2024E ที่ 2.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2023 ที่กำไร 244 ล้านบาท ทั้งนี้ กำไรปกติ 1H24 คิดเป็น 59% จากทั้งปี สำหรับผลการดำเนินงานปกติ 3Q24E คาดดีขึ้น YoY, QoQ ได้จากแนวโน้มผู้โดยสารยังทรงตัวดี และได้ผลบวกจากต้นทุนน้ำมันลดลง ในขณะที่กำไรสุทธิ 3Q24E จะมี FX gains มาก จากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นมาก (เราประเมินการแข็งค่าทุกๆ 1 บาท/USD เทียบ ณ สิ้นไตรมาส จะทำให้มี FX gain ราว 1 พันล้านบาท) ขณะที่กำไรปกติ 4Q24E จะดีขึ้นโดดเด่น เนื่องจากจะเริ่มเข้าสู่ช่วง high season, มีจำนวนเครื่องบินให้บริการเพิ่มขึ้น และค่าตั๋วโดยสารเฉลี่ยที่จะปรับตัวดีขึ้น