เราคงคำแนะนำ “ถือ” ที่ราคาเป้าหมายปี 2024E ที่ 270.00 บาท อิงวิธี SOTP บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 1Q24 ที่ 2.4 พันล้านบาท (-85% YoY แต่ฟื้นจากขาดทุน 1.1 พันล้านบาทใน 4Q23) หากไม่รวมรายการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน กำไรปกติจะอยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท (-47% YoY, +387% QoQ) สอดคล้องกับที่ consensus คาดที่ 2.3 พันล้านบาท โดยกำไรที่ลดลง YoY เป็นผลจากปริมาณขายและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่อ่อนตัวและไม่มีกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของการลงทุนในบริษัท SCG Logistics (SCGL) ขณะที่ฟื้นตัว QoQ หลักๆจากการไม่ต้องบันทึกด้อยค่าของสินทรัพย์ (loss on impairment of assets) ของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง (CBM) ในเมียนมา ทั้งนี้ เราเชื่อว่าการฟื้นตัวของกำไรจะเร่งตัวขึ้นใน 2H24E ตามแนวโน้มส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ (olefins spread) ที่น่าจะฟื้นตัว ในขณะที่ ปริมาณขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีน่าจะสูงขึ้นจากการเริ่มโครงการ LSP Petrochemical Complex

เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2024E /2025E ที่ 2.06/2.39 หมื่นล้านบาท (+55%/+16% YoY) จากปริมาณยอดขายปิโตรเคมีรวม (PE, PP, PVC) ที่สูงขึ้นจากการเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการ LSP Petrochemical Complex, 2) olefins spread ที่ดีขึ้น และ 3) รายได้จากธุรกิจ CBM และรายได้จากธุรกิจแพ็กเกจจิ้ง (SCGP) ดีขึ้น

ราคาหุ้น underperform SET -10% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาสะท้อนแนวโน้ม olefins spread ที่ทรงตัวต่ำและการประกาศการเลื่อน COD ของโครงการ LSP Petrochemical Complex  ทั้งนี้ ราคาปัจจุบันสะท้อน 2024E PBV ที่ 0.74x (ประมาณ -2.5SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV 5 ปีย้อนหลัง) ทั้งนี้ แม้กำไรสุทธิ 1Q24 คิดเป็น 12% ของประมาณการกำไรทั้งปี แต่เราเชื่อว่ากำไรของบริษัทจะฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นใน 2H24E ตาม olefins spread ที่น่าจะดีขึ้นตามเศรษฐกิจของจีนและการ COD โครงการ LSP Petrochemical Complex