เราคงคำแนะนำ “ถือ” ที่ราคาเป้าหมายปี 2025E ที่ 140.00 บาท อิงวิธี SOTP SCC กลับมารายงานกำไรสุทธิใน 1Q25 ที่ 1.11 พันล้านบาท ลดลง 55% YoY แต่ฟื้นตัวจากขาดทุน 512 ล้านบาทใน 4Q24 ดีกว่าตลาดคาดที่ 709 ล้านบาท ทั้งนี้ ในไตรมาสนี้ SCC รับรู้ปริมาณขายที่ลดลง YoY, QoQ จากโครงการ LSP ตามแผนปิดซ่อมบำรุงแต่ยังรับรู้ค่าเสื่อมราคาและดอกเบี้ยอยู่ แต่เห็นปริมาณขายที่สูงขึ้น QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลจากธุรกิจ CBM และธุรกิจแพ็กเกจจิ้ง (SCGP) สำหรับภาพรวมธุรกิจใน 2Q25E แม้เราเชื่อว่า olefins spread อาจจะปรับตัวดีขึ้นตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวหลัง OPEC+ ประกาศเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันสูงกว่าคาดและสหรัฐอเมริกา (US) ประกาศบังคับใช้ภาษีนำเข้าตอบโต้ (reciprocal tariffs) ต่อการนำเข้าผลิตภัณฑ์ต่างๆจากประเทศคู่ค้า อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่าสงครามการค้าอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจในเอเชียฟื้นตัวช้ากว่าเดิม
เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025E/2026E ที่ 5.0/7.1 พันล้านบาท เทียบกับ 6.3 พันล้านบาทในปี 2024 โดยมีสมมติฐานสำคัญ คือ 1) ปริมาณขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีจะอยู่ในช่วง 2.6-2.7 ล้านตัน (mt) จาก 2.5 mt ในปี 2024 LSP 2) อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ของ SCGP ที่ลดลงอยู่ในช่วง 16.4%-16.7% จาก 16.9% ในปี 2024 และ 3) รายได้อื่นๆที่ลดลงตามรายได้เงินปันผลที่น้อยลง
ราคาหุ้นปรับตัวลง 24% และ underperform SET -6% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาสอดคล้องกับผลประกอบการที่อ่อนตัว YoY และความเสี่ยงสงครามการค้าที่สูงขึ้น ทั้งนี้ แม้ว่าราคาปัจจุบันจะสะท้อน 2025E PBV ที่ไม่แพงที่ 0.53x (ประมาณ -2.90SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV 5 ปีย้อนหลัง) กำไรสุทธิ 1Q25 คิด 22% ของประมาณการกำไรทั้งปีของเรา ทั้งนี้ เราเชื่อว่ากำไรของบริษัทน่าจะดีขึ้น QoQ จากแรงหนุนของรายได้เงินปันผลที่สูงขึ้นและแนวโน้มส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ (olefins spread) ที่ดีขึ้น อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงของสงครามการค้าที่ดำเนินอยู่น่าจะเป็นปัจจัยกดดันอุปสงค์การใช้ผลิตภัณฑ์ olefins ต่อไป