เราคงคำแนะนำ “ถือ” ที่ราคาเป้าหมายปี 2025E ที่ 22.00 บาท อิง P/BV ปี 2025E ที่ 0.97x (เทียบเท่า -0.9SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง) IVL รายงานขาดทุนสุทธิ 2Q25 ที่ 521 ล้านบาท เทียบกับขาดทุน -2.30 หมื่นล้านบาทใน 2Q24 และขาดทุน 1.3 พันล้านบาทใน 1Q25 โดยขาดทุนลดลง YoY หลักๆจากการหายไปของรายการด้อยค่าของสินทรัพย์ (loss on impairment of assets) ขณะที่ ลดลง QoQ จากการรับรู้การกลับรายการขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ถาวร ทั้งนี้ ในไตรมาสนี้ แม้บริษัทจะมีแผนปิดซ่อมบำรุงโรงงานของธุรกิจ Combined PET (CPET) และ Indovinya แต่บริษัทยังรายงานปริมาณขายที่ฟื้นตัว QoQ ได้ นอกจากนี้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการ 2Q25 ที่ 0.175 บาทต่อหุ้น สะท้อนอัตราตอบแทนที่ 0.8% โดยขึ้น XD วันที่ 27 ส.ค.2025

เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025E/2026E ที่ 3.5/6.0 พันล้านบาท เทียบกับ ขาดทุน 1.93 หมื่นล้านบาท โดยมีสมมติฐานที่สำคัญ คือ 1) ปริมาณขายรวมจะอยู่ในช่วง 13.0-13.1 ล้านตัน (mt) จากเดิม 14.0 mt ในปี 2024 ตามกลยุทธ์การปรับปรุงสินทรัพย์ (asset rationalization) 2) Adjusted EBITDA/ton จะอยู่ในช่วง USD97/ton-USD99/ton จากเดิม USD110/ton ในปี 2024 และ 3) การหายไปของ loss on impairment of assets ที่ 2.25 หมื่นล้านบาทในปี 2024

ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 18% และ outperform SET 13% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาสะท้อนความหวังว่าบริษัทจะได้ประโยชน์จากนโยบายการบังคับใช้อัตราภาษีนำเข้าตอบโต้ของสหรัฐอเมริกา (US reciprocal tariff) อย่างไรก็ดี ราคาล่าสุดสะท้อน 2025E P/BV ที่เต็มมูลค่าแล้วที่ 0.98x (เทียบเท่า -0.9SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง) สำหรับภาพรวม 3Q25E เราเชื่อว่าบริษัทจะได้ประโยชน์จากแนวโน้ม Industry Integrated PET spread ที่สูงขึ้นจากแรงหนุนของอุปสงค์ในช่วงฤดูร้อนของยุโรปและการลดอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานในภูมิภาค นอกจากนี้ IVL จะรับรู้ผลประกอบการเต็มไตรมาสของบริษัท EPL Limited (EPL)