ค่าการตลาดคาดขยายตัวได้ อย่างไรก็ตามประเมินราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสะท้อนประเด็นบวกไปพอสมควร
1) คาดค่าการตลาดลดแรงกดดันลง หลังกองทุนน้ำมันมีสถานะดีขึ้นมาก และราคาน้ำมันยังอยู่ในช่วงขาลงจากการเพิ่มกำลังการผลิตของ OPEC
2) อย่างไรก็ตาม oil sales volume คาดกลับมาเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปตามสภาวะเศรษฐกิจ (low single digit) กลับสู่สภาวะปกติหลัง COVID-19 การเปิดเมืองหนุนเติบโตเฉลี่ยกว่า +10% ต่อปี
เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2025E-26E ขึ้นมาที่ 1.1 พันล้านบาท (+7% YoY) และ 1.3 พันล้านบาท (+16% YoY) ปรับขึ้นจากประมาณการเดิม +5%/+8% ตามลำดับ โดยปรับสมมติฐานหลักค่าการตลาดในปี 2025E-26E ขึ้นมาที่ 1.67/1.70 บาทต่อหน่วย จากเดิม 1.65/1.65 บาทต่อหน่วย ในขณะที่ oil sales volume คงการเติบโต low single digit
ปรับคำแนะนำลงเป็น “ถือ” แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 8.80 บาท (เดิม 8.00 บาท) อิง PER 12X หรือเทียบเท่า -1SD ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี สะท้อนประมาณการใหม่ อย่างไรก็ตามราคาหุ้นปรับตัวขึ้นกว่า +38% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เราประเมินสะท้อนประเด็นบวกเรื่องค่าการตลาดไปพอสมควร หุ้นมี headwind จากช่วงเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดซึ่งอาจสร้างความเสี่ยงต่อการเติบโตของ oil sales volume (YTD ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้านั่งส่วนบุคคลต่อรถยนต์ใหม่คิดเป็น 21% เพิ่มขึ้นจากปี 2024 ที่ 14% มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากนโยบายสนับสนุนของรัฐ)