เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 7.50 บาท (เดิม 8.00 บาท) ยังอิง 2025E core PER ที่ 9 เท่า (-1.0SD below 5-yr average PER) เนื่องจากเราปรับกำไรลดลง ทั้งนี้ เราประเมินกำไรปกติ 1Q25E จะยังไม่เด่นที่ 421 ล้านบาท (-22% YoY, +6% QoQ) ดีขึ้น QoQ แต่ยังลดลง YoY จากฐานสูง โดยเป็นผลจากธุรกิจ FSU มีเรือให้บริการลดลงเป็น 4 ลำ (เดิม 5 ลำ) เนื่องจากมีเรือเข้า dry dock และมีขายออกไป 1 ลำ, ธุรกิจ COC มีเรือ VLCC เข้า dry dock 1 ลำ 25 ธ.ค.24 – 31 ม.ค.25 ขณะที่ธุรกิจ OSV จะดีขึ้นจากเรือใหม่ ทั้งนี้ 1Q25E จะมีกำไรพิเศษจากการขายเรือ FSU ทำให้มีกำไรสุทธิจะอยู่ที่ราว 540-580 ล้านบาท (กำไรสุทธิ 1Q24 = 561 ล้านบาท, 4Q24 = 468 ล้านบาท)

เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2025E ลง 6% เป็น 2.1 พันล้านบาท ทรงตัว YoY จากเรือ FSU ที่ให้บริการลดลงใน 1Q25E และปรับ GPM ลง โดยประเมินเรือใหม่อาจต้องใช้เวลาเพิ่ม GPM ทั้งนี้ เรายังประเมินกำไร 2Q-3Q25E จะดีขึ้นจากการรับรู้รายได้จากเรือใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะใน 2Q25E ที่จะมีเรือ FSU เริ่มให้บริการเพิ่ม 1 ลำ ตั้งแต่ 1 พ.ค. และจะไม่มีเรือขนาดใหญ่เข้า dry dock

ราคาหุ้น underperform SET -4%/-2% ใน 1 และ 3 เดือน จากกำไร 4Q24 ที่ลดลง ทั้งนี้ เรายังแนะนำเป็น “ซื้อ” จากกำไร 1Q25E จะเริ่มทยอยกลับมาฟื้นตัว ขณะที่ PRM ยังมีแผนขยายเรือใหม่/ธุรกิจใหม่ ที่จะมีความชัดเจนใน 2H25E จะช่วยเพิ่ม upside ให้กับกำไรได้ รวมถึงโครงการซื้อหุ้นคืนจะช่วยหนุนราคาหุ้น ด้าน valuation ยังน่าสนใจ คิดเป็น 2025E core PER ที่ 7.3 เท่า (-1.25SD)