เราประเมินกำไรปกติ 3Q25E (ไม่รวมกำไรพิเศษจากการขายหุ้นหลวงพระบาง พาวเวอร์) อยู่ที่ 890ล้านบาท (-12% YoY, +3% QoQ) ใกล้เคียงกรอบที่เราประเมินเบื้องต้น โดยมีปัจจัยสำคัญดังนี้
1) รายได้โต +16% YoY, +2% QoQ จากงานใหญ่โดยรวม progress ดีต่อเนื่อง
2) GPM เพิ่มขึ้น +90bps YoY และทรงตัวสูง QoQ เป็นไปตาม project mix ดีขึ้น ขณะที่ยังไม่มีผลกระทบต้นทุนค่าใช้จ่ายจากเหตุการณ์ถนนทรุด
3) ส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมชะลอ -31% YoY เนื่องจากใน 3Q24 CKP และหลวงพระบาง พาวเวอร์ มีกำไร Fx และสูงขึ้น +25% QoQ อานิสงส์ high season ของ CKP
เราคงกำไรสุทธิปี 2025E ที่ 2 พันล้านบาท (+38% YoY) แต่มีโอกาสปรับขึ้นหลังประกาศงบ 3Q25E เพื่อสะท้อนกำไรพิเศษจากการขายหุ้นหลวงพระบาง พาวเวอร์ ซึ่งเบื้องต้นเราประเมินกำไรพิเศษหลังหักภาษีที่ราว 600 ล้านบาท สำหรับ 4Q25E เราประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานจะดีขึ้น YoY จากรายได้ก่อสร้างสูงขึ้น แต่จะอ่อนตัว QoQ เนื่องจากไม่มีรายได้เงินปันผลและ CKP ชะลอตามฤดูกาล
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 23.50 บาท อิง SOTP แม้จะมีประเด็นเหตุการณ์ถนนทรุดและยังต้องติดตามผลกระทบ แต่ปัจจุบันการซ่อมแซมยังเป็นไปตามแผนและบริษัทเชื่อมั่นจะสามารถเคลมประกันได้ ขณะที่ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงค่อนข้างสะท้อนความกังวล นอกจากนี้เรายังคาดการณ์กำไรปกติปี 2025E/26E จะขยายตัวต่อเนื่องตามการรับรู้ backlog และยังมี catalyst จากโครงการ Double Deck มูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีโอกาสได้ข้อสรุปปีนี้