เราคงมุมมองเชิงลบต่อภาพรวมธุรกิจของ SCC ใน 3Q25E โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1) เราประเมินว่าบริษัทจะรายงานขาดทุนสุทธิ 3Q25E ที่ 568 ล้านบาท เทียบกับกำไร 721 ล้านบาทใน 3Q24 และกำไร 1.74 หมื่นล้านบาทใน 2Q25 โดยผลประกอบการอ่อนตัว YoY ตามแนวโน้มราคาเม็ดพลาสติก (PE, PP) ที่ลดลง ขณะที่ แย่ลง QoQ หลักๆจากการหายไปของกำไรที่เกิดขึ้นครั้งเดียวที่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างที่เกี่ยวกับ PT Chandra Asri Pacific Tbk. (CAP)
2) ธุรกิจปิโตรเคมีมีแนวโน้มที่จะเห็นปริมาณขายสูงขึ้น YoY, QoQ จากการกลับมาดำเนินงานของโครงการ Lon Son Petrochemical Complex (LSP) แต่น่าจะเห็นค่าใช้จ่ายในการ restart USD10mn เพิ่มเติมจากต้นทุนคงที่ (fixed cost) ที่ประมาณ 1.0 พันล้านบาท/เดือน
3) เราเชื่อว่าแนวโน้มส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ (olefins spread) ที่ยังคงผันผวนสูงจะเป็นปัจจัยเหวี่ยงที่ทำให้บริษัทอาจจะกลับมาพิจารณาหยุดดำเนินงานโครงการ LSP อีกครั้งใน 4Q25E
เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025E ที่ 2.28 หมื่นล้านบาท (+260% YoY) จากการรับรู้กำไรพิเศษเกิดขึ้นครั้งเดียวที่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างที่เกี่ยวกับ CAP ทั้งนี้ หากประมาณการ 3Q25E เป็นไปตามที่เราคาด กำไรสุทธิ 9M25 จะคิดเป็น 78% ของประมาณการกำไรของเรา
เรายังคงคำแนะนำ “ขาย” ที่ราคาเป้าหมายปี 2025E ที่ 150.00 บาท อิงวิธี SOTP โดยเราคงมุมมองว่ากำไรสุทธิของบริษัทผ่านจุดสูงสุดของปีไปแล้วใน 2Q25 และจะพลิกกลับมาเห็นขาดทุนสุทธิใน 3Q25E จากต้นทุนสุ่วนเพิ่มของ LSP และแนวโน้ม olefins spread ที่อ่อนแอ