logo
search
flag-th
share-icon

สรุปประเด็นจากงานสัมมนา 2024 DAOL FORUM นโยบายเศรษฐกิจและแนวโน้มการลงทุนรับปีมังกร

01. Daol Forum Thumbup

เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 กลุ่มธุรกิจการเงิน ดาโอ (ประเทศไทย) ได้จัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปี 2024 DAOL Forum ในหัวข้อ “นโยบายเศรษฐกิจและแนวโน้มการลงทุนรับปีมังกร” เพื่อให้ลูกค้าได้ทราบถึงนโยบายของรัฐบาลที่จะส่งต่อทิศทางเศรษฐกิจไปจนถึงภาคอุตสาหกรรม และมุมมองการลงทุนในตลาดหุ้นและตราสารหนี้ รวมทั้งการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับภาษีกับการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการลงทุนในปี 2024 นี้ นำทีมโดยคณะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของกลุ่มธุรกิจการเงิน ดาโอ (ประเทศไทย) และวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งตัวแทนจากรัฐบาล จากภาคอุตสาหกรรม จากตลาดทุน และตลาดตราสารหนี้ และผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี

06. K.kittiratt Resized

📝 สรุปปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “นโยบายเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการลงทุนไทย”
โดย คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

การเดินหน้าบริหารเศรษฐกิจในขณะนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเติบโตของทั้งอุปทาน และอุปสงค์ ควบคู่กันไป เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้ มีการกระจายตัวที่ดี และมีเสถียรภาพ

ด้านอุปทาน พิจารณาใน 4 ด้าน คือ

  1. ภาคอุตสาหกรรม
  2. ภาคเกษตรกรรม
  3. ภาคพาณิชยกรรม
  4. ธุรกิจบริการ

ด้านอุปสงค์ ดูใน 4 เรื่อง คือ

  1. การส่งออก
  2. การลงทุนภาคเอกชน
  3. การใช้จ่ายภาครัฐ
  4. การอุปโภคและบริโภคภายในประเทศ

หากในทุกด้านทำงานประกอบกัน จะสามารถเคลื่อนเศรษฐกิจให้รุดหน้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะเห็นผลได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 นี้ หลังจากเมื่องบประมาณภาครัฐผ่านสภาฯ ออกมาให้ใช้จ่ายได้ในช่วงเดือน เม.ย ปีนี้ และการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ยังส่งผลดีอยู่

ปัญหาสำคัญที่ต้องแก้ไข คือ

  1. หนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90% ของ GDP ประเทศ อยู่ที่ 16 ล้านล้านบาท (ลลบ.) และจำนวนหนี้เสีย (NPL) สูงถึง 1 ลลบ. รวมถึงหนี้อื่น ๆ และหนี้ที่เกิดขึ้นในช่วงโควิด ซึ่งหากแก้ไขให้ลูกหนี้สามารถชำระดอกเบี้ยและเงินต้นได้ จะช่วยให้ลูกหนี้สามารถประกอบธุรกิจต่อได้
  2. ปัญหาเรื่องการเพิ่มผลผลิตการเกษตรกรรม ด้วยการใช้ปุ๋ยให้ตรงกับความต้องการของพืช และการเพิ่มปริมาณแหล่งน้ำให้ทั่วถึง โดยการกระจายอำนาจให้กับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นจัดทำแหล่งน้ำของตนเองด้วยองค์ความรู้ใหม่ คือ ธนาคารน้ำใต้ดิน คือ ฝากน้ำไว้อยู่ใต้ผิวดินแบบตื้น ๆ แต่สามารถสูบน้ำขึ้นมาใช้ได้จำนวนหลาย 100 ไร่
  3. ปัญหาด้านอัตราดอกเบี้ย จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการลดดอกเบี้ยเงินกู้ทั้งสหกรณ์ และธนาคารพาณิชย์ ในส่วนต่าง (Spread) ที่กว้าง เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบซึ่งผิดกฎหมาย โดยแนะนำให้ลูกหนี้ปฏิเสธไม่ชำระต่อได้หากชำระดอกเบี้ยเกินกว่าเงินต้นแล้ว และรัฐบาลจะต้องดูแลในจุดนี้อย่างเอาจริงเอาจัง

ด้านนโยบายการคลัง ไทยยังคงต้องขาดดุลงบประมาณกันต่อไป เพราะต้องใช้เงินกู้เพื่อเติมการจัดเก็บรายได้ ด้านค่าเงินบาท คาดหวังว่าจะไม่แข็งจนเกินไป ดังนั้น การทรงดอกเบี้ย หรือการลดดอกเบี้ยลง แล้วปล่อยให้มีเงินตราต่างประเทศไหลออกไปบ้าง จะทำให้ค่าเงินบาทไม่แข็งค่ามาก และอ่อนค่าพอที่ผู้ส่งออกจะทำงานได้

“สรุปก็คือ อุปสงค์ และอุปทาน ต้องทำงานด้วยกัน และปัญหาต่าง ๆ รัฐบาลอยู่ระหว่างการแก้ไข ไม่ได้ถูกละเลย และอยากให้มั่นใจว่าโอกาสในการลงทุนในปีนี้จะชัดเจนขึ้น”

สรุปประเด็นจากช่วงเสวนา “แนวโน้มการลงทุนรับปีมังกร”

09. K.montri

📌 ภาคอุตสาหกรรมไทยขับเคลื่อนการลงทุนในตลาดทุน
โดยคุณมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

ในปีนี้มีปัจจัยส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกในหลายด้าน เช่น ปัญหาความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่ความท้าทายที่มีผลต่อเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมไทย คือ มีความท้าทายในเชิงโครงสร้าง เช่น ภาวะโลกร้อน และสังคมผู้สูงอายุ และความท้าทายอุตสาหกรรมไทย เช่น กฎหมายยังล้าสมัยและเป็นอุปสรรค ต้นทุนพลังงาน วัตถุดิบ และโลจิสติกที่สูง การขาดแรงงาน ขาดเทคโนโลยี นวัตกรรม และความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมถึงการทุ่มตลาดจากสินค้าราคาถูกและไม่มีมาตรฐาน และค่าเงินบาทที่ผันผวน

แต่เรื่องใหม่ที่จะมีผลต่อภาคธุรกิจใน 10 ปีจากนี้ คือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นผลให้มีการออกกฎหมายเก็บภาษีสินค้าที่ปล่อยคาร์บอนสูง อย่างกฎระเบียบ CARBON BORDER ADJUSTMENT MECHANISM (CBEM) ของสหภาพยุโรป ซึ่งมีผลต่อ 6 กลุ่มอุตสาหกรรมของไทย  ได้แก่ เหล็ก ไฟฟ้า ซีเมนต์ อะลูมิเนียม ปุ๋ย และไฮโดรเจน ต้องปรับตัวในการซื้อคาร์บอนเครดิตให้เป็นศูนย์ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียภาษีเมื่อส่งออกสินค้าไปยุโรป ขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์ EV จะยังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากเรื่องสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการใช้พลังงานไฟฟ้า ส่วนเทรนด์พลังงานสะอาดที่น่าจับตามองคือ การใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (Small Modular Reactor) ที่มีราคาค่าไฟฟ้าต่อหน่วยต่ำอยู่ที่ไม่เกิน 1 บาท

ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรม ประเมินว่า มี 22 อุตสาหกรรมที่สามารถขยายตัว ในปี 2567 จาก 46 อุตสาหกรรม โดยมีอุตสาหกรรมเด่น ได้แก่ เครื่องดื่ม ยานยนต์ เครื่องปรับอากาศ เครื่องมือแพทย์ และพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับการลงทุน ส่วนอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ต้องระมัดระวังอุปทานที่ล้นตลาด หรือ Over supply

10. Dr. Soraphon

📌 แนวโน้มการลงทุนในตลาดทุนไทย
โดย ดร. ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

ปี 2566 แม้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง 15% ขณะที่กำไรบริษัทจดทะเบียน -20% สะท้อนว่า นักลงทุนยังให้ความสนใจกับตลาดหุ้นไทย ไม่ได้ discount ราคาหุ้นและกำไรสุทธิต่ำลงมาก

สิ่งที่จะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาในปีนี้ คือ

  1. กำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ดี ที่สะท้อนจากเศรษฐกิจจริงที่เติบโต จากการลงทุนภาครัฐจากการเบิกจ่ายเงินงบประมาณปี 2567 และ 2568 ที่จะอนุมัติในปีเดียวกัน
  2. จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่จะกลับมา
  3. เสริมด้วยการย้ายฐานการผลิตของต่างประเทศเข้ามาในไทยจากปัญหาเรื่องความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ เช่น สหรัฐฯ ที่ขัดแย้งกับจีน จึงมองหาแหล่งผลิตสินค้าแทนจีน และเพื่อได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี (BOI Investment Incentive) นอกจากนี้ ส่วนต่างระหว่างสัญญาณการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กับความคาดหวังของนักลงทุน หากต่างกันมากทำให้ตลาดผันผวน และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ในระยะสั้นจะกระทบกับราคาน้ำมัน และค่าเงิน

คำแนะนำการลงทุนในตลาดทุน

ตลาดหุ้นไทยเป็น Defensive Stock ที่นักลงทุนมองว่าปลอดภัยในการลงทุน และแนะนำนักลงทุนพิจารณาหุ้นเป็นรายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มความยั่งยืน ซึ่งไทยมีบริษัทอยู่ในดัชนีชี้วัดด้านความยั่งยืน (DJSI) มากที่สุดในอาเซียนมาหลายปี และมี 14 บริษัทไทยที่ติดอันดับ Gold ใน S&P Global Yearbook 2024 ส่งผลให้ไทยมีบริษัทน่าลงทุนมากที่สุดในโลก ปีนี้ตลาดหุ้นน่าจะคึกคัก จากจำนวนหลักทรัพย์ที่เตรียมเข้า IPO ในปีนี้ ที่ยื่นไฟลิ่งเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มากถึง 38 บริษัท (ข้อมูล ณ 27 ก.พ. 67)

ด้านการสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน

SET ได้ยกระดับเกณฑ์การกำกับดูแลบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียน และกำหนดแนวทางมาตรการการกำกับดูแลการขายชอร์ต (Short Selling) มาตรการ Program Trading เช่น การป้องกันราคาผันผวนผิดปกติ และการปรับปรุงเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูล ซึ่งเป็นการดำเนินการในทั้งระบบ และกระบวนการ เพื่อสร้างความมั่นใจกับนักลงทุน

12. Dr. Somjin Group

📝 แนวโน้มการลงทุนในตลาดตราสารหนี้
โดย ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA)

ปัจจุบันตลาดการเงินไทยค่อนข้างดีมีความสมดุล ผู้ระดมทุนทั้งบริษัทและภาครัฐ สามารถเลือกระดมได้สะดวกในภาวะที่เหมาะสม โดยขนาดตลาดตราสารหนี้ อยู่ที่ 16.7 ลลบ. สินเชื่อธนาคาร 18.5 ลลบ.และตลาดหุ้น 16.8 ลลบ.รวมเป็น 52 ลลบ. คิดเป็น 3 เท่าของขนาด GDP ประเทศ

📌 ด้านมุมมองตราสารหนี้
ปัจจุบันส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยของไทยกับสหรัฐฯ อาจจะทำให้มีเงินของนักลงทุนต่างชาติไหลออกบ้าง แต่ไม่ส่งผลให้ตลาดสะเทือน

📌 การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย
จากผลสำรวจของ ThaiBMA คาดว่า กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ไม่เกิน 2 ครั้ง รวม 0.50%

📌 ด้านสัดส่วนของตลาดตราสารหนี้
50% เป็นพันธบัตรรัฐบาล อีก 28% เป็นหุ้นกู้เอกชน และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 14% ด้านตราสารหนี้เอกชน หุ้นกู้ระยะยาว กลุ่มพลังงาน มีมูลค่าคงค้างมากที่สุดรวม 4.5 ล้านล้านบาท รองลงมา คือกลุ่มการเงิน อสังหาริมทรัพย์ สื่อสาร และอาหาร โดย 5 กลุ่มนี้ รวมเป็น 60% ของตลาดตราสารหนี้ ด้านอันดับเครดิต หุ้นกู้กลุ่มอันดับเครดิต A มีมูลค่าคงค้างสูงที่สุด หุ้นกู้ Investment grade มีมูลค่าคงค้างรวม 92% และอีก 8% เป็นหุ้นกู้ Non-Investment grade

📌 ด้านมาตรการที่ช่วยเหลือผู้ลงทุน
กรณีหุ้นกู้ผิดนัดชำระหนี้ ThaiBMA สนับสนุนให้ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่แม้กฎหมายยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ช่วยให้การสื่อสารไปยังผู้ถือหุ้นกู้ดีขึ้น และให้นักลงทุนสามารถใช้สิทธิของตนเองได้ดีพอสมควร การทำงานร่วมกัน SET จัดหาข้อมูลค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม (Industry average) เพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบได้ดีขึ้น และการปรับปรุงสัญญาให้ผู้ออกตราสารหนี้ให้อยู่ในกรอบและหลักเกณฑ์

📌 แนะนำจัดทัพลงทุนแบบฟุตบอล
ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดเงินและตลาดทุน

  • แนะนำลงทุนกองหน้าเป็น หุ้นทุน เพื่อสร้างความมั่งคั่ง
  • ลงทุนตราสารหนี้ เป็นกองกลางเพื่อสร้างกระแสเงินสดและรักษาอำนาจซื้อ
  • ลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เป็นกองหลัง เพื่อคุ้มครองเงินต้นและเพิ่มสภาพคล่อง

โดยจัดทัพสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ และมีการการกระจายความเสี่ยง ขณะเดียวกัน การลงทุนในตราสารหนี้ ให้พิจารณาความเสี่ยงด้านราคา ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงในการขึ้นลงของอัตราดอกเบี้ย ความเสี่ยงด้านเครดิต โดยคำนึงสัดส่วนการลงทุนในตราสารแต่ละตัวให้เหมาะสม และความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง ที่ไม่คล่องตัวเท่ากับหุ้นสามัญ

15. K. Praphan

📝 สรุปคำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมตัวและวางแผนภาษีจากการลงทุนต่างประเทศ
โดย คุณประพันธ์ พิชัยวัฒน์โกมล ทนายความหุ้นส่วน Siam Premier International Law Office Limited

กรณีมีคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 161 และ 162 กำหนดว่า เงินได้พึงประเมินจากแหล่งเงินได้ต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค 67 เป็นต้นไป ในปีภาษีที่บุคคลอยู่ในประเทศตั้งแต่ 180 วันขึ้นไป หากบุคคลนั้นนำเงินได้ฯ นั้นเข้ามาในประเทศไทยในปีภาษีดังกล่าวหรือในปีภาษีต่อมาภายหลัง จะต้องนำเงินได้ฯ มารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามฐานภาษีของแต่ละคน ในปีภาษีที่นำเงินได้ฯ เข้ามาในประเทศไทย โดยปัจจุบัน กรมสรรพากรยังไม่ได้ออกแนวทางในการปฎิบัติในส่วนของเอกสารหลักฐานที่จะใช้ในการประกอบการพิจารณา หรือข้อหารือเพิ่มเติม ซึ่งจะมีการเริ่มเสียภาษีครั้งแรกตามกฎหมายนี้ ในเดือน มี.ค. 68

ดังนั้น จึงแนะนำให้ผู้ลงทุนตรงในหลักทรัพย์ต่างประเทศ จะต้องเก็บหลักฐานการลงทุนทุกอย่าง ตั้งแต่จำนวนนำเงินออกจากประเทศไทย ประเภทผลตอบแทนที่ได้รับจากต่างประเทศ เช่น ดอกเบี้ย เงินปันผล และกำไรจากการขายหลักทรัพย์ และจำนวนเงินที่กลับเข้ามาในประเทศ รวมทั้งเอกสารที่ใช้ในการขอเครดิตภาษีหากมีการเสียภาษีในต่างประเทศแล้ว

โดยประเด็นที่น่าสนใจ ได้แก่ ความชอบด้วยกฎหมายของคำสั่งกรมสรรพากร ความชัดเจนในทางปฏิบัติ ทั้งฐานภาษี อัตราภาษี วิธีเสียภาษี และวิธีขจัดภาษีซ้อน ความเป็นธรรมในการเสียภาษีจากเงินได้จากต่างประเทศเทียบกับเงินได้ในประเทศ หรือการแข่งขันกับต่างประเทศ และผลเสียจากการขาดแหล่งเงินทุนในประเทศเพราะไม่นำเงินกลับเข้ามา

ทั้งนี้ สำหรับคำแนะนำในการบริหารจัดการเรื่องภาษีเงินได้จากแหล่งเงินได้ต่างประเทศนี้ ทำได้หลายรูปแบบ นอกจาก การเลือกลงทุนต่างประเทศที่ไม่เข้าเกณฑ์เสียภาษี เช่น การลงทุนผ่านกองทุนรวมในประเทศไทยที่นำเงินไปลงทุนต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น

  1. การเปิดบัญชีเงินฝากพร้อมเปิดบัตรเครดิตที่ต่างประเทศ แต่นำบัตรเครดิตมาใช้จ่ายในประเทศไทย
  2. การลงทุนของครอบครัวในต่างประเทศ โดยตั้งเป็น Offshore holding company เป็นตัวแทนในการลงทุนในต่างประเทศ คล้ายกับการจัดตั้งบริษัทเพื่อลงทุนแทนบุคคล โดยในการรับเงินได้กลับเข้ามา ครอบครัวที่ลงทุนสามารถตั้งเป็น holding company ในประเทศไทย เข้าถือหุ้นใน offshore holding company เพื่อรับเงินปันผลที่ได้จากต่างประเทศอีกทีนึง
  3. การทำประกันเพื่อ back up asset ในการกู้ยืมเงินกลับมา และเอาเงินกลับมาในรูปของเงินกู้ ซึ่งเงินได้จากประกันภัยเป็นเงินได้ที่ได้รับการยกเว้นตามประมวลรัษฎากร โดย asset ยังคงอยู่ครบในต่างประเทศ
  4. เงินจากการรับมรดก โดยผู้ลงทุนอาจเก็บเงินไว้ก้อนหนึ่งเลย ซึ่งกฎหมายการให้และภาษีมรดกในไทย หากให้ไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อปี ได้รับการยกเว้นภาษี หรือการรับมรดกต่อคนไม่เกิน 100 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี

ทั้งนี้ สำหรับนักลงทุนที่สนใจที่จะชมงานสัมมนา 2024 DAOL Forum นโยบายเศรษฐกิจและแนวโน้มการลงทุนรับปีมังกร ย้อนหลังสามารถรับชมได้ทาง Youtube DAOL Channel 

กลับสู่ด้านบน

combo-icon
certified

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

DAOL Contact Center 0 2351 1800contactcenter@daol.co.th

DAOL Contact Center Address เลขที่ 87/2 อาคารซีอาร์ซีทาวเวอร์ ชั้นที่ 18 ออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

logo

and our member companies

บริษัทหลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรีท แมเนจเมนท์บริการสินเชื่อที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี

©2024 บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สงวนลิขสิทธิ์