SET Outlook
คาดการณ์ทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ คาดว่าตลาดหุ้นไทยยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยรอความชัดเจนในประเด็นทางการเมืองของไทย และปัจจัยชี้นำจากภายนอก เช่น แผนระงับสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาล ประเมินกรอบดัชนีฯ สัปดาห์นี้ไว้ที่ 1242-1270 จุด จุดทดสอบดัชนีฯ ที่สำคัญคือ 1250 และ 1242 จุด ตามลำดับ
ปัจจัยในประเทศ
• ตลาดกำลังรอดูทิศทางการเมืองของไทย เนื่องจากจะมีการประชุมสถาฯวิสามัญฯในสัปดาห์หน้า (8-11 ธ.ค.) ซึ่งอาจจะมีการพูดหรือเตรียมยื่นขออภิปรายไม่ไว้วางใจ .... เราประเมินว่า ถ้ามีการยุบสภาฯ ในเดือน ธ.ค.จะเป็นลบต่อตลาดหุ้น แต่หากฝ่ายค้านให้รัฐบาลทำงานต่อ อาจมีแรงซื้อหุ้นกลับ
• การฟื้นฟูน้ำท่วม: วิกฤตน้ำท่วมภาคใต้เข้าสู่ช่วงการเยียวยาผู้ประสบภัย ความเสียหายทางเศรษฐกิจคาดว่าสูงถึง 23.6 พันล้านบาท ซึ่งอาจฉุดรั้งการบริโภค และเพิ่มโอกาสที่ ธปท. อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 17 ธ.ค. นอกจากนี้ ยังมีการย้ายการแข่งขันกีฬาซีเกมส์หลายชนิดไปที่กรุงเทพฯ และชลบุรี เพื่อความปลอดภัย
• Fund Flow/เงินบาท: นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยรวม (SET+MAI) 1,175 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ 10,414 ล้านบาท เงินบาทเย็นวันที่ 28 พ.ย. อยู่ที่ 32.19 บาท/ดอลลาร์ โดยคาดกรอบการเคลื่อนไหวต้นสัปดาห์หน้าไว้ที่ 32.10-32.30 บาท/ดอลลาร์ ต้นทุนการระดมทุนผ่านตราสารหนี้ของไทยปรับลดลง ตามการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ปัจจัยต่างประเทศ:
• การประชุม OPEC+: มีการประชุมรัฐมนตรี เพื่อทบทวนภาวะตลาดน้ำมันโลกและนโยบายการผลิต แหล่งข่าวระบุว่า ซาอุดีอาระเบียอาจปรับลดราคาขายน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการ (OSP) สำหรับลูกค้าในเอเชียงวดส่งมอบเดือน ม.ค. 2569 สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี การปรับลดราคา OSP ดังกล่าวมีสาเหตุจากคาดการณ์อุปทานน้ำมันที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่มโอเปกพลัสได้เพิ่มเป้าหมายการผลิตน้ำมันราว 2.9 ล้านบาร์เรล/วัน
• สหรัฐฯ ระงับรับผู้อพยพ: ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจะระงับการรับผู้อพยพจากกลุ่มประเทศโลกที่สามอย่างถาวร และจะยุติการมอบสวัสดิการและเงินอุดหนุนของรัฐบาลกลางทั้งหมดแก่ผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองสหรัฐฯ รวมถึงเรียกร้องให้มีการการย้ายถิ่นฐานกลับ ซึ่งมีสาเหตุจากเจ้าหนี้สหรัฐฯ ถูกยิงโดยชาวอัฟกานิสถานในสัปดาห์ก่อน
• ความขัดแย้งทางการทูตระหว่างจีนกับญี่ปุ่น: ความตึงเครียดในภูมิภาคเอเชียยังคงสูง โดยความขัดแย้งนี้ดำเนินมาเกือบ 1 เดือน ซึ่งเกี่ยวข้องกับถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซานาเอะ ทาคาอิจิ เกี่ยวกับไต้หวัน
• ความคืบหน้า แผนสันติภาพ ยูเครน-รัสเซีย : ล่าสุด รัสเซียได้ปล่อยการโจมตีทางอากาศเข้าใส่กรุงเคียฟ อย่างหนักในช่วงข้ามคืน โดยประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่า กองกำลังรัสเซียยิงขีปนาวุธประมาณ 36 ลูกและโดรนเกือบ 600 ลำ เป้าหมายหลักคือ โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและสิ่งอำนวยความสะดวกของพลเรือน
• เศรษฐกิจจีน: ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) อย่างเป็นทางการของจีนในเดือน พ.ย. อยู่ที่ 49.2 ซึ่งยังคงต่ำกว่า 50 เป็นเดือนที่แปดติดต่อกัน. ดัชนีภาคที่ไม่ใช่ภาคการผลิตก็หดตัวลงสู่ระดับ 49.5. นอกจากนี้ ตลาดถูกเขย่าจากความกังวลในวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ เมื่อ China Vanke Co. เสนอที่จะเลื่อนการจ่ายพันธบัตรในประเทศ
ตัวเลขเศรษฐกิจและ Event
• 1 ธ.ค.: US-S&P Global US Manufacturing PMI
• 1 ธ.ค.: US-ISM Manufacturing
• 2 ธ.ค.: EC-CPI, Core CPI Estimate YoY
• 3 ธ.ค.: TH-CPI, Core CPI YoY
• 3 ธ.ค.: US-ADP Employment Change
• 4 ธ.ค.: US-Initial Jobless Claim
Strategy
• ตลาดหุ้นไทยยังคงไร้ทิศทาง นักลงทุนส่วนใหญ่เก็งกำไรเพียงช่วงสั้นๆ และทยอยขายหุ้นออก สัปดาห์นี้ ยังเป็นสัปดาห์ที่ตลาดกำลังจะเลือกทางเดินว่าจะ rebound หรือลงต่อ จุดทดสอบดัชนีฯ ที่สำคัญคือ 1250 และ 1242 จุด ตามลำดับ
• กลยุทธ์: เราแนะนำชะลอการลงทน รอดูทิศทางตลาด โดยเฉพาะในเรื่องการเมือง รวมไปถึงความคืบหน้าของแผนสันติภาพของรัสเซีย-ยูเครน
• หุ้นในพอร์ตแนะนำ: เรานำ TTB, KTB , CPN ออก หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย ADVANC(10%), DELTA*(10%), GULF(10%), CPALL*(10%), SCB(10%)
Technical : JMT, SPRC
News Comment:
( 0 ) Energy (Neutral) OPEC+ คงเป้าหมายการผลิตน้ำมันใน 1Q26; ประธานาธิบดี US ประกาศปิดน่านฟ้าเวเนซูเอล่า
( 0 ) AAV (ขาย/เป้า 1.05 บาท) Airbus สั่งอัปเดตซอฟต์แวร์เครื่องบิน A320 จำนวน 6,000 ลำ ป้องกันผลกระทบจากรังสีสุริยะ
News Flash:
( + ) Construction Services (Overweight) รฟท. เปิดประมูลสายสีแดงส่วนต่อขยาย 2 เส้นทาง รวม 2 หมื่น ลบ.
( + ) Bank (Overweight) ดัชนีราคารถยนต์มือสอง เดือน ต.ค. 25 เพิ่มขึ้น +9% YoY จากทั้งรถยนต์นั่งและรถบรรทุก
( + ) KLINIQ (ซื้อ/เป้า 31.00 บาท) ผู้บริหารคาดรายได้ปี 25E แตะ 3.5 พันล้านบาท, 4Q25E ทำ ATH
Company Update:
( 0 ) AAI (ถือ/เป้า 5.00 บาท) ปริมาณขาย 4Q25E ดีขึ้น แต่บาทแข็งจะยังกดดัน GPM