SET Outlook
• คาดดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวลงจากทิศทางการเมืองไทย และสถานการ์ตะวันออกกลาง
• ตลาดหุ้นไทย ถูกกระทบมาจากข่าวการเมืองวานนี้ (คลิปเสียง+”ภูมิใจไทย”ถอนตัว) อาจเป็นช่วงสั้นๆ ที่ตลาดจะตอบรับข่าวลบ ขณะที่สถานการณ์ตะวันออกกลาง ยังไม่ดีขึ้น ดัชนีฯ มีแนวรับถัดไป 1090 และ 1074 จุด ตามลำดับ
• การเมืองไทย กลับมากลายเป็นตัวแปรที่มีน้ำหนักต่อตลาดมากที่สุดมาตั้งแต่วันวาน(18) หลังมีการเผยคลิป นายกฯ คุย “ฮุนเซน” และตามด้วยการถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลของ “ภูมิใจไทย” .... ประเด็นการเมือง เป็นหนึ่งในสาม ตัวแปร ที่ถ่วงตลาดไทยโดยตรง และมีน้ำหนักมากที่สุด วันนี้ ตลาดน่าจะลบจากเรื่องนี้
• สถานการณ์ตะวันออกกลาง อิหร่าน และอิสราเอล ยังสลับกันโจมตีกันอย่างต่อเนื่อง เป็นตัวแปรที่ถ่วงตลาดหุ้นทั่วโลก แม้จะมีการประเมินว่า ผลกระทบจะไม่เป็นวงกว้าง ในเรื่องของ supply น้ำมัน แต่ก็จะรบกวนบรรยากาศการลงทุนอยู่ต่อไป เพราะหากสหรัฐฯ เข้ามาร่วมโจมตีด้วย หลังมีข่าวว่า Trump จะตัดสินใจภายใน 1 วันข้างหน้า ในเรื่องนี้ อาจสร้างความกังวลเพิ่ม
• ผลการประชุม FOMC ออกมาตามคาด Fed คงดอกเบี้ย ไว้ที่ 4.25-4.50% Dot Plot ส่งสัญาณลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ และ ปรับคาดการณ์ GDP สหรัฐเหลือ 1.4% ปีนี้ จากเดิม 1.7% Fed ยังมีความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อ (จากมาตรการภาษี) .. เรามองเป็นข่าวในเชิงลบของตลาด
• ความขัดแย้งแนวชายแดนกัมพูชาและไทย ยังตึงเครียดต่อ แต่หาก ฝ่ายไทย-กัมพูชา กลับมาคุยกันได้ จะเป็นข่าวดี ของหุ้นหลายตัว โดยเฉพาะ CBG, SAV, TOA
• การประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เคาะงบกระตุ้นล็อตแรก 1.15 แสนล้านบาท โดย 70% เป็นโครงการที่เกี่ยวกับเรื่องน้ำ และการคมนาคม รองลงมา 10% เป็นโครงการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ..... หุ้นในตลาด อาจได้ประโยชน์ไม่มาก และยังต้องรอกว่าจะได้ใช้งบประมาณก้อนนี้ อีกพักใหญ่ๆ
• การส่งออกเดือนพ.ค.68 ขยายตัว 18.4% สะสม 5 เดือนขยายตัว 14.9% ปัจจัยหนุนจากการชะลอมาตรการภาษีศุลกากร ทำให้มีการเร่งส่งออกต่อเนื่อง โดยกลุ่มที่มีการยายตัวมาก คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ(+104%) .... ตัวเลขการส่งออกดี เนื่องจากอยู่ในช่วงเร่งการส่งออก หลังจากนี้อาจทยอยปรับตัวลง ต้องติดตามการเจรจา และการบังคับใช้มาตรภาษีของทรัมป์หลังครบกำหนดการระงับใช้ในช่วง 8-9 ก.ค.นี้
• อยู่ในช่วงที่ FTSE SET Index Series เตรียมการ rebalance ในวันพรุ่งนี้ (20) เพื่อทำ rebalance ..... หุ้นเข้าออก #FTSE SET Mid-Cap Index ได้แก่ หุ้นเข้า : AURA และหุ้นออก : EPG, FORTH, LHFG, MAJOR, RBF, RS, SCCC, THG
• Event วันนี้ : ธปท.แถลงในเรื่อง License ของ Virtual Banking
Strategy
• ตลาดหุ้นไทย โดนขนาบข้างในทางลบ จากการเมืองในประเทศเอง คือเรื่องการปรับ ครม. และถานการณ์ตะวันออกกลาง แม้จะมีการเข้ามาเก็งกำไร หุ้นที่ราคาลงมาลึกๆ สวนทางตลาด แต่คาดว่า แรงซื้อ(เก็งกำไร) เหล่านี้ น่าจะแผ่วลง หาก รัฐบาลปล่อยให้ “ภูมิใจไทย” หลุดไปจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จับตาแนวรับต่อไป 1090, 1074 จุด หลังหลุด 1100 จุดลงแล้ว
• หุ้นในพอร์ตวันนี้ เรานำ PTTEP, ADVANC, CRC ออก และคงหุ้นที่เหลือไว้ หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย AOT(10%), BDMS*(10%), SCB(10%)
Technical : KCE, BCH
News Comment:
( 0 ) SAPPE (ถือ/เป้า 33.50 บาท) บริษัทคาดกำไร 2Q25E โต QoQ ชะลอ YoY, 2H25E เติบโตในอัตราเร่ง YoY, HoH
0 ) Bank (Overweight) วันนี้กระทรวงการคลังจะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับใบอนุญาต Virtual Bank โดย SCBX-KTB-CP มีโอกาสได้
News Flash:
( 0 ) Pet Food (Neutral), TU (ถือ/เป้า 10.50 บาท), GFPT (ซื้อ/เป้า 12.00 บาท), NER (ถือ/เป้า 5.00 บาท) ส่งออกโดยรวม พ.ค. 2025 กลับมาโต MoM ตามคาดจากปัจจัยฤดูกาล ยกเว้นยางพารายังชะลอตัว
Company Update:
( + ) MEDEZE (ซื้อ/เป้า 8.60 บาท) ATMPs sandbox มีความชัดเจนมากขึ้น