SET Outlook
• คาดดัชนีฯ แกว่งกรอบแคบก่อนเข้าวันหยุด นักลงทุนส่วนใหญ่รอดูผลประชุม FOMC จับตาการเจรจาหยุดยิงอิสราเอล-ฮามาส
• การประชุม FOMC ที่จะทราบผลเช้าวันพฤหัส(2) ของไทย ตลาดและ Fed คาดการณ์ไว้แล้วว่าจะคงดอกเบี้ย แต่สิ่งที่นักลงทุนมองหาในการประชุมครั้งนี้ คือ Fed มีโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยเร็วที่สุด เมื่อใด ตอนนี้ Fed อาจลดดอกเบี้ยปีนี้ เหลือเพียง 0-2 ครั้ง นักลงทุนปรับพอร์ตรอรับผลประชุมไปตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว สัปดาห์นี้ จึงเป็นสัปดาห์ที่จะรอคอยผลที่ออกมามากกว่า ..... หุ้นที่อิงกับเรื่องนี้มากที่สุด จะเป็นหุ้นกลุ่มธนาคาร
• สถานการณ์ตะวันออกกลาง จะเป็นตัวชี้ทิศทางตลาดได้ ล่าสุด มีข่าวว่า อิสราเอล อาจถูกบีบให้เจรจาในเรื่องตัวประกัน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จะดีต่อตลาดหุ้น แรงกดดันที่มีต่อเงินเฟ้อจะลดลง แต่จะเป็นลบต่อราคาน้ำมัน (เราแนะนำให้เลี่ยงหุ้นน้ำมันในช่วงนี้ออกไปก่อน)
• วันนี้ ประชุม ครม. จับตารัฐมนตรีที่ได้รับตำแหน่งใหม่ (คลัง+ท่องเที่ยว) น่าจะเข้าร่วมประชุมด้วย คาดว่าจะมีการพูดถึงนโยบายของกระทรวงด้วย .... เรื่องที่มีผล่อตลาดหุ้น จะเป็นการขับเคลื่อนนโยบายการคลังที่จริงจัง (Digital Wallet) และนโยบายด้านท่องเที่ยว สานต่อจากที่นายกฯ ไปพูดในหลายๆที่ หุ้นที่เกี่ยวข้อง คือ หุ้นค้าปลีก-ค้าส่ง และ หุ้นที่อิงการท่องเที่ยว
• สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ปรับลด GDP ปีนี้(2567) จาก 2.8% เหลือ 2.4% แสดงให้เห็นถึงผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงในต่างประเทศ และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ(ไทย) ที่ค่อนข้างช้า ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการแจกเงิน(Digital Wallet) ช้ากว่าประมาณการเดิม.... การประมาณการ GDP ที่ลดลง (ธปท. ให้ไว้ตอนนี้ 2.6%) ทำให้ความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยในมุมของนักลงทุนต่างประเทศลดลง
• ตัวเลขส่งออก ในภาคอุตสาหรรม ที่คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 80% ของตัวเลขส่งออก มีการส่งออกที่ลดลง ทั้งรถยนต์+อีเล็คทรอนิคส์+ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกหลักๆ ของเราชะลอตัว (เรากังวล) ขณะที่ภาคเกษตร เห็นผลกระทบจากภาวะ El Nino(น้ำตาลทราย+ผลไม้) แต่สินค้า 3 ตัว คือ อาหารสัต์เลี้ยง(ITC, AAI) ยางพารา(NER, STA, STGT) ออกมาค่อนข้างดี
• วันนี้ ADVAC มีกำหนดส่งงบ 1Q ทาง DAOL ประเมินกำไรปกติไว้ที่ 6.6 พันลบ.(+3% yoy) ขณะที่กำไรสุทธิจาก Bloomberg Survey อยู่ที่ 7.2 พันลบ. +6.8% yoy; +3.1% qoq
• Event สำคัญๆ สัปดาห์นี้ :ตัวเลข PMI จีน(30) (คาด 50.3 ; เดือนก่อน 50.8) รายงานเศรษฐกิจเดือน มี.ค.โดย ธปท(30) GDP ของกลุ่มอียู (30) (0.18% qoq; ไตรมาสก่อน 0.0%)
Strategy
• ตลาด จะแกว่งกรอบแคบ และมีโอกาสที่จะปิดลดลงเล็กน้อยก่อนเข้าวันหยุดของไทย ....... กลยุทธ์ลงทุน ยังเป็นขายทำกำไร ขณะที่ผู้รอซื้อ จังหวะที่ดีของตลาด อาจเป็นหลังทราบผลประชุม FOMC
• หุ้นลงแรง+แข็งแกร่ง คือ BDMS*, TISCO , MTC เรามองเป็นจังหวะให้ขายทำกำไรในวันนี้ ก่อนเข้าวันหยุด เพราะถ้าตลาดเป็นแค่ rebound โอกาสไปต่อ น่าจะยาก
• เล็งหุ้นที่งบ 1q จะออกมาดี เพื่อเก็งกำไรช่วงสั้น ยังคงเป็น 6 ตัว ประกอบด้วย BDMS, CENTEL, ICHI, SAPPE, RBF*, TKN*
• วันนี้ เราเล็งหุ้นที่คาดว่าจะมีแรงซื้อจากการ rotate ของนักลงทุนที่เล่นสั้น ไว้ 3 ตัว คือ TRUE*, OR, AOT
• หุ้นในพอร์ตวันนี้ เรานำ BDMS, WHA, ITC ออก และคงหุ้นที่เหลือเดิมไว้ ….หุ้นในพอร์ตวันนี้ ประกอบด้วย SAPPE(10%) และ KTB(10%)
Technical : MBK, MCA
News Comment
( + ) Pet Food (Neutral), TU (ซื้อ/เป้า 20.00 บาท), NER (ซื้อ/เป้า 6.80 บาท), GFPT (ถือ/เป้า 12.50 บาท) ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงและยาง มี.ค. 2024 ดีกว่าคาด, ส่งออกอื่นๆ โตใกล้เคียงคาด
( - ) KTB (ถือ/เป้า 18.50 บาท) ประกาศปรับลดดอกเบี้ย MRR, MLR และ MOR 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง
Company Report
( + ) CPN (ซื้อ/เป้า 82.00 บาท) กำไรสุทธิ 1Q24E เพิ่มขึ้นได้ทั้ง YoY/QoQ
( - ) BAM (ขาย/เป้า 7.60 บาท) 1Q24E ดีขึ้น YoY จากฐานต่ำ, ลดลง QoQ จากหนี้ครัวเรือนสูง
( 0 ) BGRIM (ซื้อ/เป้า 35.00 บาท) 1Q24E โตจากโครงการใหม่, ปี 2024E มี upside ถ้ารัฐลดแทรกแซงค่าไฟ
( 0 ) SIRI (ถือ/เป้า 1.80 บาท) กำไรปกติ 1Q24E ยังไม่เด่น ดีขึ้น YoY ลดลง QoQ ตามยอดโอน
( 0 ) KTB (ถือ/เป้า 18.50 บาท) เป้าหมายทางการเงินใกล้เคียงคาด
กลับสู่ด้านบน
DAOL Contact Center Address เลขที่ 87/2 อาคารซีอาร์ซีทาวเวอร์ ชั้นที่ 18 ออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
©2024 บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สงวนลิขสิทธิ์